หมวดหมู่: หนัง

ดู หนังยอดนิยม จากทาง NETFLIX ส่งท้ายปีมีอะไรน่าดูบ้าง

อัพเดทก่อนใครกับ หนังยอดนิยม ผ่านทางเว็บไซต์ pander4you.com ที่ได้รวบรวมหนังใน Netflix ติดอันดับ

ที่กำลังเป็นกระแสของคนไทยที่ได้หลั่งไหลเข้าไปดูในช่วงเวลายามว่าง ที่ได้ยกมาทั้งหนังไทยและหนังต่างประเทศ ที่มีมากมายให้ดูหลายแนว ที่มีความแตกต่างและครบรสอย่างแน่นอน 

ไม่ว่าจะเป็นหนังแอคชั่น หนังระทึกขวัญ หนังฮาๆ ก็มีให้เลือกดู โดยหนังดีบอกต่อที่อยากจะแนะนำ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 5 เรื่องด้วยกัน สามารถดูมันส์ ๆ หลาย ๆ เรื่องรวดเดียวจบได้เลย เพราะเฉลี่ยต่อเรื่องอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ไปดูกันเลยดีกว่า หนังยอดนิยม มีเรื่องอะไรบ้าง

1.ปริศนารูหลอน

(https://drama.kapook.com/view249122.html)

หนังยอดนิยม จากทาง NETFLIX เรื่องแรกเป็นหนังไทยที่อยากจะแนะนำให้ไปลองหาดู โดยอย่างที่ทราบกันดีว่าความดำมืดของอดีตมักจะกลับมาทักทายปัจจุบันอยู่เสมอ เช่น เรื่องราวเดียวกันกับ “พิม” และ “พัท” สองพี่น้องหนุ่มสาวที่มีเหตุต้องไปอยู่กับปู่กับย่าเนื่องจาก “ใหม่” ผู้เป็นแม่ได้เข้าโรงพยาบาล และเมื่อได้ไปอยู่ที่บ้าน ทั้งคู่ก็พบเรื่องราวสุดประหลาด ที่เต็มไปด้วยความหลอน ที่รูปริศนาปรากฏขึ้นมาอย่างลึกลับ ชวนให้ผู้ชมอย่างจะไขรูลับนี้ไปด้วยกัน โดยความยาวของหนังจะอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 5 นาที

2.คนคลั่งแค้น ปล้นผ่านรก

(https://mereview.in.th/synopsis-wrath-of-man/)

หนังที่เรียกได้ว่ามีฉากบู๊สุดเข้มข้นที่กำลังเป็น หนังยอดนิยม ใน Netflix โดยเรื่องจะเปิดฉากที่รถหุ้มเกราะคันหนึ่งได้ทำการขนย้ายของสำคัญ แต่ทว่าขณะออกไปก็ดันโดนปล้นอย่างไม่ตั้งตัว โดยกลุ่มโจรทำเนียนเป็นคนก่อสร้างถนน ที่เอารถขนปูนมาขวาง แต่พอขวางเท่านั้นแหละก็กระหน่ำปืนยิงเลย และเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จึงได้มีการว่าจ้าง “H” ที่จะเป็นพนังงานใหม่ในการขนยาย ประกบคู่กับ “บุลเลท” พี่เลี้ยงคู่หูที่จะต้องทำงานปกป้องรถหุ้มเกราะ และแน่นอนว่าก็เกิดการปล้นอีกครั้ง แต่ก็โดน “H” จัดการแบบสิ้นราย และเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อต้องรีบดู หนังไม่ควรพลาด Netflix โดยความยาวของหนังจะอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 58 นาที

3.นาคามรกต

(https://intrend.trueid.net/article/%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7-%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B0-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%95-green-snake-2021-%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%88%E0%B8%8D%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7-netflix-trueidintrend_253075)

หนังยอดนิยม ที่จัดว่าอยู่ในหมวดหนังใน Netflix ที่มาในรูปแบบอนิเมชั่นที่มีภาพสวยดูดีที่ให้บรรยากาศสไตล์จีน ๆ ว่าด้วยเรื่องของนาคา 2 พี่น้อง หรือก็คือเป็นนางพญางูเขียว และนางงูขาว ตั้งใจที่จะถล่มวัดจินชานที่เต็มไปด้วยแมลงที่ดุร้าย แต่ทว่าพระรูปหนึ่งก็ได้ทำการปกป้องวัดนี้ไว้ จนทำให้นางพญางูขาวถูกดูดกลืนหายไป แต่ก่อนหายไปก็ได้ฝากเด็กทารกให้นางพญางูเขียวดูแล แต่นางพญางูเขียวก็เลือกที่จะไม่ยอมแพ้ จึงถูกดูดกลืนย้ายไปอีกมิติหนึ่งเพียงลำพัง และนั่นก็ทำให้ไปอยู่ในโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยกิเลสและตัณหา ซึ่งต้องบอกเลยว่างานภาพเรื่องนี้จัดเต็มสุด ๆ ไปเลย โดยความยาวของหนังจะอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 10 นาที

4. EXTREME JOB

(https://reviewsnung.com/archives/3678)

คราวนี้มาทางฝั่งเกาหลี หนังยอดนิยม ใน Netflix กันบ้างดีกว่า ว่าด้วยเรื่องของทีมตำรวจที่มีผลงานไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ และด้วยความที่อยากจะสร้างผลงานเจ๋ง ๆ ให้เป็นที่ยอมรับ ก็มีความต้องการที่จะจับแก๊งขายยาให้ได้ ที่โดยปกติก็ควรจะต่างสืบแบบเรียบ ๆ แต่ตำรวจทั้ง 5 ดันเรื่องเปิดร้านขายไก่ทอดดักสุ่มแก๊งค้ายาที่คาดว่าจะอยู่แถวนั้น แต่กลายเป็นว่าร้านไก่ทอดที่เปิดเนียน ๆ กับอร่อยสุด ๆ จนลูกค้าเข้ามาเพียบ เลยกลายเป็นเรื่องยุ่ง ๆ ของตำรวจขายไก่ ที่เรียกได้ว่าฮา บ้า และบู๊ดีเดือดมาก เป็นหนังที่ทุกคนต้องดู โดยความยาวของหนังจะอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 51 นาที

สิ้นสุดการรอคอยกับภาคต่อของ The Princess Switch (Switched Again) ขอเท้าความถึงภาคแรกก่อนสักหน่อยค่ะเพราะห่างหายมานานตั้งแต่ปี 2018 สเตซี่สาวนักอบขนมธรรมดาๆ คนนึงกำลังจะเข้าแข่งขันอบขนมครั้งสำคัญของชีวิต และบังเอิญได้เจอกับมากาเร็ตเจ้าหญิงแห่งมอนเตนาโร บังเอิ๊ญบังเอิญที่ทั้งสองหน้าตาเหมือนกันเป๊ะ มากาเร็ตต้องการเรียนรู้ชีวิตของสามัญชนและประชาชนของเธอในอนาคต ทั้งสองคนจึงทำการสลับตัวกัน ความอลวนวุ่นวายก็ได้เกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเกิดการสลับคู่รักที่พลิกล็อคสุดๆ เจ้าหญิงสูงศักดิ์รักกับคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวเพื่อนสนิทของสเตซี่ ส่วนหญิงสาวธรรมดาก็ตกหลุมรักเจ้าชายเข้าเต็มเปา เวลาแค่ไม่กี่วันความรักก็เกิดขึ้นได้นะเออ เพราะว่าต่างคนต่างเจอในสิ่งที่ตัวเองขาดหายไปนั่นเองแหละ เราก็สบายใจไปแล้วนะกับตอนจบที่ทุกคน Happy แต่แม้ในภาคแรกดูเหมือนจะจบแบบ Happy ending จะเป็นยังไงเมื่อความรักของคู่หนึ่งมันไปต่อไม่ได้ เปิดมาขนาดนี้แล้วคงต้องแอบสปอยล์สักหน่อยแล้วค่ะ

สลับแล้วสลับอีกเพื่อความรัก : The Princess Switch (Switched Again)

นี่จะเป็นเรื่องราว The Princess Switch (Switched Again) หลังจากสเตซี่แต่งงานกับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดทั้งคู่ก็เริ่มมีเวลาให้กันน้อยลงเพราะสเตซี่ต้องการจะเป็นเจ้าหญิงที่สมบูรณ์แบบเธอรักการทำงานการกุศลโดยเฉพาะบ้านเด็กกำพร้า ในด้านมากาเร็ตเธอมีหน้าที่ที่จะต้องขึ้นเป็นราชินีของมอนเตนาโรซึ่งนั่นทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเควินต้องจบลงแหละเหลือเพียงสถานะเพื่อน สเตซี่ไม่พอใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่ ก่อนงานพิธีขึ้นครองราชย์ของมากาเร็ต เธอจึงเสนอให้ทั้งสองคนสลับตัวอีกครั้งเพื่อให้มากาเร็ตได้ปรับความเข้าใจกับเควิน และมันก็ไปได้สวยเลยล่ะ ด้วยการสลับตัวครั้งนี้สเตซี่เธอไม่ได้บอกสามีของเธอเอ็ดเวิร์ดที่ตอนนี้กำลังระหองระแหงกันอยู่ เอ็ดเวิร์ดต้องการคำปรึกษาจากมากาเร็ตเพราะเขาเริ่มไม่แน่ใจว่าสเตซี่ยังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า ทั้งสองก็ได้ปรับความเข้าใจกันแบบบังเอิญ(เรียกว่าสเตซี่ได้รู้ความในใจของสามีดีกว่า เธอถึงได้ตระหนักว่าเธอลืมสิ่งสำคัญที่สุดไป) แต่คราวนี้พวกเธอไม่ได้สลับกันแค่สองคน ใช่แล้ว มีอีกคนที่เข้ามาสลับตัวนั่นคือฟีโอน่าญาติของมากาเร็ตที่ต้องการขึ้นเป็นราชินีเพื่อขโมยของมีค่าทุกอย่างไป ฟีโอน่าเป็นคนฟุ่มเฟือยมาก และเธอใช้มรดกจนหมดแล้วเธอจึงต้องทำทุกทางเพื่อหาเงิน ทุกทางแบบแปลกๆ อะนะ เรื่องวุ่นๆ
ก็ได้เกิดขึ้นหนักกว่าเดิม ฟีโอน่าทำการสลับตัว(เรียกว่าจับตัวไปเพื่อสลับตัวจะถูกกว่า) กับสเตซี่เพราะคิดว่าเป็นมากาเร็ต เธอเร่งพิธีสวมมงกุฎเข้ามาภายในคืนนั้นเพื่อที่จะให้เป้าหมายของเธอเป็นจริงเร็วที่สุดแล้ว
จะได้หนีไปแบบสวยๆ ในด้านมากาเร็ตก็ได้ปรับความเข้าใจกับเควินเป็นที่เรียบร้อยและนัดดินเนอร์กัน
แต่พอกลับไปห้องปรากฏกว่าคนที่อยู่ในห้องไม่ใช่สเตซี่เอาล่ะซิ งานสวมมงกุฎก็ถูกเลื่อนเข้ามา มากาเร็ตจะช่วยสเตซี่ และบัลลังก์ของเธอไว้ได้รึเปล่านะ ไปดูได้แล้ววันนี้ทาง Netflix ค่ะ

บทสรุปของการสลับตัว : The Princess Switch (Switched Again)

บางครั้งมันก็คงดีที่เราจะมีใครสักคนทำหน้าที่ที่เราไม่ชอบแทนตัวเรานะ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องมีขีด

จำกัดของมัน The Princess Switch  (Switched Again) ในภาคนี้ได้แสดงให้เห็นว่าการสลับตัวกันนั้นมันก็มีข้อดีในภาคแรกแต่พอในภาคที่สองกลับแสดงในด้านลบให้เห็นบ้าง คือเรื่องที่เกิดขึ้นกับสเตซี่มันก็เลวร้ายมากเธอถูกลักพาตัวไปโดยที่ไม่มีใครรู้ แต่อีกปัญหาคือราชินีคนใหม่ที่เป็นตัวปลอมคงไม่สนุกแน่ถ้าฟีโอน่าได้เป็นราชินี ความเสียหายจากการสลับตัวในครั้งนี้ไม่มีใครคาดคิด และนี่คือสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อกับเรา บางครั้งเราก็แค่ต้องกล้าที่จะเป็นตัวเอง และกล้าที่จะตัดสินใจเชื่อมั่นในตัวเอง ต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่ แต่ถึงแม้ว่าการตัดสินใจครั้งนั้นมันผิดพลาดมันก็คือบทเรียนของเรา รู้แล้วว่าผิดคราวหน้ามันจะไม่ผิดซ้ำสองผู้เขียนเชื่อแบบนั้นค่ะ เห็นไหมว่าหนังของวันคริสมาสต์ที่ดูจะเป็นหนังครอบครัวสบายๆ ก็ยังให้ข้อคิดดีๆ ได้เลย

ยิ่งโลกพัฒนาไปไกลได้เร็วแค่ไหน หนังจีน ก็ยิ่งพัฒนาได้ไม่แพ้กันเลย สมัครนี้หนังกำลังภายใน หรือหนังแนวเทพเซียนได้รับความนิยมอย่างมาก ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งนอกจากบทของหนังแล้ว ก็มีคนที่มารับบทแสดงต่างๆ นี่แหละที่ทำให้หนังแนวนี้ยังมีความนิยมอยู่เสมอ แต่เมื่อเทียบคุณภาพแล้ว ตัวนักแสดงนั้นเล่นได้สมจริงเข้าถึงตัวละครได้อย่างดีเยี่ยมมาแต่ไหนแต่ไร แต่ว่าเรื่องคุณภาพของการถ่ายทำนั้นแน่นอนว่าเทคโนโลยีสมัยก่อนไม่อาจเทียบเท่าของปัจจุบันได้ ปรมาจารย์หยินหยาง เป็นอีกเรื่องที่แสดงการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตภาพยนตร์ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ใช่เพียงแต่หนังใหม่ เช่นเคย หนังเก่าๆเองก็ มีเนื้อเรื่องที่ดี น่าสนใจ ทำให้หลายเรื่องถูกนำมารีเมค และเขียนขึ้นใหม่ ทำให้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง 

เนื้อเรื่อง ปรมาจารย์หยินหยาง สปอยล์แบบจัดเต็ม

ใครเป็นคอหนังจีน ซีรีย์จีน ห้ามพลาดเรื่องนี้เด็ดขาด ขอย้ำว่า ห้ามพลาดเด็กขาด มันดีไปหมดทั้งภาพ CG จนถึงตัวละครและบท โดยเฉพาะ ตัวปรมาจารย์ ไม่รอช้ามีรู้จักกันเลยดีกว่า ฉิงหมิง ต้องเสียอาจารย์ไปในการต่อสู้กับปีศาจอสรพิษ และได้ขึ้นเป็นปรมาจารย์หยินหยางแห่งสำนักมังกรฟ้าคนต่อมา แต่นั่นเป็นเพียงแค่เงาของมัน ร่างที่แท้จริงของปีศาจอสรพิษนั้นอยู่ในนครหลวง ร่างกายของจักรพรรดินีถูกใช้เป็นกรงขังมันเอาไว้ เมื่อ 300 ปีก่อน เขตใต้ เกาะตะวันออก แดนตะวันตก และนครเหนือ 4 สำนักปรมาจารย์ได้ผนึกเจ้าปีศาจตนนี้เอาไว้และร่ายรูปปั้นมังกรฟ้า หงส์ไฟ เสือขาว และเต่าดำเอาไว้เพื่อปกป้องโลก

ฉิงหมิงได้รับคำสั่งให้ไปยังนครหลวงเพื่อทำพิธีสำหรับสยบเจ้าปีศาจนั้น พร้อมกับปรมาจารย์จากอีก3 สำนัก หนึ่งในนั้นคือ ป๋อหยา ปรมาจารย์ที่ทำตรงกันข้ามเกือบจะทุกอย่างกับฉิงหมิง ป๋อหยานั้นเห็นปีศาจไม่ได้จะต้องฆ่าทิ้งที่ตัว แต่กับฉิงหมิงเขามีเมตตากับปีศาจอย่างมีเหตุผล ในคืนที่ปรมาจารย์ทั้ง 4 เดินทางถึงนครหลวงนั้น ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อ 1 ใน 4 ปรมาจารย์ถูกฆ่าตาย โดยปีศาจเกศา และลูกศิษย์ของเขาได้ขึ้นเป็นปรมาจารย์แทนทันที การค้นหาตัวคนร้ายถูกดำเนินการโดยองค์หญิงของนครหลวง ฉิงหมิงเกือบจะถูกใส่ร้ายในเหตุการณ์ครั้งนี้แต่ป๋อหยาออกหน้าช่วยไว้ ถึงตรงนี้เป็นเรื่องตลกมากที่ปรมาจารย์ทั้ง 4 ต่างคนต่างไม่ไว้ใจกัน

เมื่อเวลาเร่งรัดเหล่าปรมาจารย์ต่างรีบเร่งออกไปเก็บวิญญาณปีศาจ แต่ฉิงหมิงกลับสบายใจอยู่กับปีศาจที่ตนรับมาดูแลจนทำให้ป๋อหยารู้สึกขุ่นเคือง แล้วเรื่องวุ่นๆ ก็ยังไม่จบเมื่อองค์หญิงโดนปีศาจทำร้าย ฉิงหมิงช่วยไว้ได้และได้วิญญาณปีศาจมาด้วย วิญญาณปีศาจเพียงตนเดียวนั้นสามารถปลุกมังกรฟ้าได้ เพราะมันเต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าขององค์หญิงนั่นเอง ฉิงหมิงพาป๋อหยาไปดูอดีตของตนเองจนทำให้ทั้งสองเกิดความเข้าใจกันมากขึ้น เล่ามาถึงตรงนี้เหมือนจะจิ้นกันไปแล้วนะเนี่ย แต่แล้วเรื่องราววุ่นวายก็เกิดขึ้นอีกเมื่อปรมาจารย์ถูกฆ่าอีกคนโดยปีศาจเกศาอีกเช่นเคย แต่ความลับนั้นก็ถูกเปิดเผยว่าใครเป็นผู้ควบคุมปีศาจตนนั้น เมื่อองค์หญิงกลายเป็นฆาตกร และความจริงคือจักรพรรดินีไม่มีอยู่จริง องค์หญิงคือจักรพรรดินีผู้เป็นอมตะ เพราะร่างกายของนางขังเจ้าปีศาจอสรพิษเอาไว้นั่นเอง พระเอกของเราฉิงหลิงทั้งเก่งและฉลาดมากไม่นานเขาก็รู้ว่าเรื่องราวเป็นมายังไง

แต่ในที่สุดปีศาจอสรพิษก็ได้เป็นอิสระ องค์หญิงผู้ถวิลหารักเดียวของนางได้หลุดพ้นจากความ
เป็นอมตะ แล้วการต่อสู้กับร่างจริงของปีศาจอสรพิษก็ได้เริ่มต้นขึ้น และการจะหยุดอสรพิษนี้ไว้คือรูปปั้นทั้ง 4 จะต้องถูกปลุกขึ้นมาจากวิญญาณปีศาจที่กล่าวไปในตอนแรก แต่ว่ากลับมีเพียงรูปปั้น 3 อันเท่านั้นที่ถูกปลุก เพราะอะไรกันนะ ขอบอกเลยว่า ทั้งปีศาจทั้งภูตรับใช้ฉิงหมิงคืองานดีมาก ที่เลือกดูหนังเรื่องนี้เพราะเหตุผลนี้เป็นการส่วนตัว การต่อสู้ครั้งนี้ฉิงหมิงได้เสียภูตรับใช้ไปแต่ยังไม่สามารถที่จะหยุดเจ้างูร้ายได้ เพราะมีภูตที่อาจารย์ของฉิงหมิงสร้างไว้เพื่อปกป้ององค์หญิงควบคุมงูอยู่ เจ้าภูติตนนี้ยึดติดกับคำว่า ปกป้ององค์หญิงตลอดไป มากเกินไปจนทำให้ตนเองเลือกทำทุกวิถีทางที่จะได้อยู่กับองค์หญิงไปตลอดกาลตามคำสั่ง ภูติตนนี้ก็ได้เป็นปรมาจารย์จากการที่ปรมาจารย์คนแรกตายนั่นเอง ดังนั้นการที่รูปปั้นอีกอันยังไม่ถูกปลุกก็เพราะเจ้านี่แหละ ป๋อหยาสละเลือดตนเองเพื่อปลุกรูปปั้นหงส์ไฟ และกำเนิดเป็นภูติรับใช้ที่แกร่งที่สุดของฉิงหมิง อื้อหือเลยล่ะท่านผู้ชม มันส์มาก ดีมาก ให้ 10 10 10 ไปเลย

สาววายต้องปลื้ม กับ ปรมาจารย์หยินหยาง

ในท้ายที่สุดฉิงหมิงก็เอาชนะเจ้าปีศาจอสรพิษได้ การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้ฉิงหมิงได้เป็นปรมาจารย์
หยินหยางอย่างเต็มตัวสักที กว่าจะถึงตอนนั้นสู้กันนานอยู่นะ สมกับเป็นหนังจีนความอลังต้องมาอันดับแรก หนัง 2 ชั่วโมง ดูไปแล้วรู้สึกว่าจบเร็วมากอยากดูต่อ ถ้าหากใครชอบหนังแนวเทพเซียนนี้อยู่แล้วต้องดูหรือแม้แต่คนที่ชอบแนวต่อสู้ หรือสายวาย ลอง Move on จากปรมาจารย์ลัทธิมารมาดูเรื่องนี้ได้นะดีไม่แพ้กันแน่นอน อีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือถ้ายัง Move on จากมธุรสหวานฯ ไม่ได้เรื่องนี้เติ้งหลุนก็หล่อเท่สุดๆ ไปเลย แม้ไม่ได้มีสาวข้างกายแต่ก็มีฉิงหมิงสหายร่วมตาย ตอนที่ฉิงหมิงจะกลับบ้านยังมีกลอนหวานใจละลายให้จิ้นอีกด้วยนะ

คนที่ชอบหนังแนวแอคชัน หนังบู๊พลาดไม่ได้กับ Xtreme เป็นหนังล้างแค้นที่บ้าระห่ำสุดๆ
ฆ่ากันเลือดสาดทุกซีนไปเลยจ๊ะ ใครกำลังอึดอัดดูหนังเรื่องนี้แล้วรับรองว่าสะใจแทนแน่ๆ ไม่มีบทโง่ๆ
มีแต่ความเรียลๆ แมนๆ หนังเรื่องนี้ Netflix พึ่งลงไว้ได้ไม่นานแถมยังได้อันดับหนังฮิตอีกด้วย ที่สำคัญ
มีพากย์ไทย เหมือนได้ปลดปล่อยไปกับฉากแอ็คชันที่ดุเดือด ไม่ได้อวยเลยนะคะแต่หนังทำบทออกมาได้ดีและอยู่บนพื้นฐานของความจริงที่สุดแล้ว บทของตัวละครออกจะเรียบๆ แต่ที่ไปที่มาของความแค้นชัดเจน การเอาคืนก็ชัดเจน แทบไม่มีเวลาให้คิดว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป

สปอยล์หนัง Xtreme เอ็กซ์ตรีม

Xtreme เป็นเรื่องราวการแก้แค้นของแม็ก นักฆ่ารับจ้างที่เคยเป็นลูกเลี้ยงของแก๊งยากูซ่ากำลังจะอำลาวงการไปใช้ชีวิตแบคนปกติทั่วไป เลี้ยงลูกชาย ชื่อ ออเดร์ เด็กน้อยที่ชอบกีต้าร์เป็นชีวิตจิตใจ
แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อลูเซโร่ไม่ยอมปล่อยเขาไปแบบเป็นๆ ยังไม่ทันข้ามวันก็มีคนตามไปฆ่าถึงที่ เขาได้เสียออเดร์ไปในคืนนั้น แม็กและมาเรียลูกเลี้ยงของหัวหน้าแก๊งอีกคนถูกเข้าใจผิดว่าตายไปแล้ว ในวันเดียวกันนั้นลูเซโร่ได้ฆ่าพ่อแท้ๆ ของตัวเองเพื่อขึ้นสู่อำนาจ เวลาผ่านไปสองปี ลูเซโร่มีครอบครัวที่อบอุ่นด้วยความรักที่มีต่อลูกสาวทำให้เขาเริ่มอ่อนแอ และยังไม่รู้ว่าชีวิตที่แสนสุขของเขานั้นใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ในอีกด้านหนึ่งเด็กหนุ่มชื่อ “เลโอ”เขาเป็นคนขยันคนนึงเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวเลโอโกหกแม่ว่าได้งานที่อู่ซ่อมรถ แต่แท้จริงแล้วเขาขายยาให้กับวัยรุ่นที่โรงเรียน และเขายังมีลูก้าประจำอีกหลายราย วันหนึ่งเขาก็ถูกใช้ให้ไปส่งยาในที่ที่ไม่ใช่ถิ่นของแก๊ง เลโอถูกซ้อมและได้ แม็กช่วยเอาไว้ได้ เลโอประทับใจและขอให้แม็กช่วยสอนการต่อสู้ให้ นั่นทำให้แม็กคิดถึงลูกชายมากเขาวางแผนจะไปล้มงานประชุมลับกับมาเรีย แต่ว่าตั้งแต่เขาได้พบกับเลโอสมาธิของเขามักจดจ่ออยู่กับการช่วยเหลือเด็กหนุ่มคนนี้ เลโอยังคงถูกใช้ให้ไปส่งยาที่เดิม แต่เขาปฏิเสธ และถูกทำลายมือที่ชอบดีดกีต้าของเขา แม็กตามไปสั่งสอนคนที่สั่งงานเลโอและหนึ่งในลูกน้องมันรู้จักแม็ก นั่นทำให้การแก้แค้นของแม็กยากขึ้นไปอีก เลโอยักยอกเงินที่ได้จากการขายยา มันจึงไปฆ่าทุกคนในครอบครัวของเลโอแม็กเกือบพลาดท่าจบชีวิตอีกรอบ มาเรียโกรธมากแต่ก็ไม่เคยทิ้งแม็กไปไหนรวมถึงเจ้าหนูเลโอจอมก่อเรื่อง เลโอคิดอยากแก้แค้นให้ตัวเองและแม็กจึงได้บุกไปที่รังของลูเซโร่คนเดียว เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปนั้นตามไปดูกันได้เลยกับหนังเรื่อง Xtreme dyog]p

หนังแนวแอ็คชันอย่าง Xtreme ให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตไว้อย่างลึกซึ้ง

หนังถูกตั้งชื่อว่า Xtreme นี้สมชื่อจริงๆ ทั้งดุเดือด มันส์ และบ้าระห่ำ จัดเต็มสุดๆ สมกับเป็นหนังแอ็คชันสมัยใหม่เนื้อเรื่องไม่เอื่อยเฉื่อย กับเวลา 1 ชั่วโมงถือว่าทำได้ดีมากๆ เรื่องราวการล้างแค้น การต่อสู้ ไม่มียืดเยื้อแต่ถึงกระนั้นแล้วหนังก็สะท้อนว่าแท้จริงเราแค่ต้องการความสงบสุข และความยุติธรรมในชีวิต ความฟุ้งเฟ้อและอำนาจนั้นสักวันต้องหมดไปเมื่อเราโดนทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันทำให้คน คนนึงต้องลุกขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองและคนที่เขารัก

Sweet & Sour จะบอกว่าคุณคิดยังไงกับคำคมที่บอกว่า “รักแท้แพ้ใกล้ชิด” ระยะทางมีผลกับความสัมพันธ์ของคู่รัก? เชื่อว่าหลายคนที่ดูหนังเรื่องนี้จะต้องอยู่ไกลกับคนรัก พอดูจบคุณอาจจะระแวงกันมากขึ้นนะ แต่ในทางกลับกันคุณก็อาจจะใส่ใจกันมากขึ้นก็ได้ เพราะได้เห็นบทเรียนตัวอย่างในหนังเรื่องนี้ ระยะทางกับความรักมีผลซึ่งกันและกันมากกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ซะอีก เพราะความสัมพันธ์จะพัฒนาไปในทางที่ดีได้ต้องอาศัยหลายอย่างจุดสำคัญคือความเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน หมั่นเติมความรักในทุกๆ วันจะทำให้ความสัมพันธ์นั้นยืนยาวได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ ทั้งสองฝ่ายจะต้องช่วยกัน หากพยายามอยู่ฝ่ายเดียวสิ่งเหล่านั้นก็ไม่มีประโยชน์เลย และมันจะยิ่งยากกับการรักษาความสัมพันธ์เมื่อคุณอยู่ห่างไกลกับคนรักการไปมาหาสู่ พักผ่อน ไปเดต ล้วนทำได้ยากกว่าคู่รักที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลา

ความรักกับระยะทางใน Sweet & Sour (มีสปอยล์)

Sweet & Sour เป็นหนังภาพยนตร์ของเกาหลีบอกเลยว่าหนังหักมุมสุดๆ เป็นหนังแนวรักๆ
ของคนวัยทำงาน ของคน 4คน เปิดเรื่องมาที่ “อีจางฮยอก” พี่อ้วนวิศวกรหนุ่มป่วยต้องรักษาตัวอยู่
ในโรงพยาบาล ในเมืองอินชอน มีนางพยาบาลคอยดูแล นานวันเข้าเขาก็ตกหลุมรักกับพยาบาลสาวที่ชื่อ
“ดาอึน” ด้วยความใกล้ชิด และจากการเอาใจใส่ของเธอที่ดูเหมือนจะมีใจให้กัน ดาอึนขอเรียกพี่อ้วนว่า
“พี่ฮยอก”อยู่มาวันหนึ่ง อีจางฮยอกก็ได้เวลากลับบ้านเมื่ออาการของเขาดีขึ้น แต่เขาไม่อยากกลับเพราะ
ยังไม่ได้สารภาพรักกับพยาบาลสาว พอเขากลับไปก็ทนคิดถึงพยาบาลสาวไม่ได้ เขาพยายามหาเบอร์ติดต่อเธอ และในที่สุดเขาก็โทรไปหาเธอจนได้ ทั้งคู่นัดกันไปเดต “จางฮยอก” ตั้งไปช่วยงานที่บริษัทใหญ่เพื่อความก้าวหน้าของอาชีพของเขาดาอึนก็ยอมให้ไป เขาเทียวไปเทียวมาระหว่างโซลกับอินชอนทุกวันทำให้เหนื่อยมาก และที่บริษัทใหญ่ก็มีสาวคนหนึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานกับจางฮยอก เนื่องจากเป็นเด็กใหม่ทั้งคู่เลยไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่แม่สาวคนนั้นก็ชอบแย่งซีนอยู่ตลอด จับพลัดจับพลูทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกันหลายโปรเจ็คเลย นั่นทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น และด้วยระยะทางและเวลาที่จะหาความสุขให้ตัวเองมีน้อยลง พอถึงบ้านอยอกก็เอาแต่บ่นว่าตัวเองเหนื่อย แล้วโทรศัพท์ของเขาก็สั่นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ดาอึนรู้สึกเป็นห่วงว่าฮยอกจะเหนื่อยเกินไป และทำงานออกมาได้ไม่ดีถ้ายังไปมาแบบนี้ทุกวัน เธอจึงขอให้เขาอยู่ที่โซลแล้วให้มาหาเธอวันหยุดแทนเมื่อเวลาผ่านไป ดาอึนตั้งท้อง แต่ฮยอกกลับดูไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด นั่นยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและเธอเลวร้ายมากขึ้น ท้ายที่สุดทั้งคู่ตัดสินใจทำแท้ง คืนนั้นจุดแตกหักก็เกิดขึ้นเมื่อฮยอกเรียกชื่อดาอึนผิดเป็นคนอื่น ดาอึนไม่ทนอีกต่อไป เธอส่งแหวนคืนไปให้ฮยอกและไม่ติดต่อกันอีกเลยฮยอกโกรธและในที่สุดมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนร่วมงานคนนั้นและคบกัน อยู่ ๆ วันหนึ่งโทรศัพท์ของฮยอกก็มีแจ้งเตือนการจองตั๋วไปเกาะเซจู ฮยอกสงสัยว่าทำไมดาอึนยังไม่ยกเลิกตั๋ว แถมยังไม่เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในไลน์แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจรีบกลับไปหาดาอึนก่อนที่เครื่องจะออก ช่วงตอนท้ายของเรื่องจะมีเฉลยน๊า เอาเป็นว่าจบแบบเรียลๆ ไม่เพ้อฝัน และไม่เจ็บปวดขนาดนั้นอย่าลืมไปดูกันนะ กว่าจะจบผู้เขียนก็มึนกับชื่อมากๆ หวังว่าผู้ที่ได้อ่านจะเข้าใจในสิ่งที่กำลังสื่อ แต่ง่ายที่สุดคือไปดูค่ะ สับขาหลอกเก่งมาก

สุดท้ายแล้วความรักไม่สามารถไปต่อได้? : Sweet & Sour

รักหวานอมเปรี้ยว เราว่าชื่อนี้เหมาะมากๆ กับหนังภาพยนตร์ของเกาหลี อย่างเรื่อง Sweet & Sour เรื่องราวความรักที่หากคนสองคนไม่ซื่อสัตย์ถึงแม้ไม่มีเรื่องระยะทางเข้ามาเกี่ยวข้องมันก็พังลงได้ สำหรับดาอึนและจางฮยอกยิ่งมีเรื่องของระยะทางเข้ามาเกี่ยวข้อง เวลาไม่ตรงกัน เจอกันน้อยลง ฝ่ายนึงเอาแต่พูด ฝ่ายนึงเอาแต่ฟังจึงทำให้ความสัมพันธ์นั้นมันสั่นคลอนได้ง่าย สิ่งที่ขาดไปคือทั้งดาอึนควรจะบอกความรู้สึกของเธอไปตรงๆ และจางฮยอกเองก็ควรจะคิดถึงความรู้สึกของดาอึนให้มากขึ้น ความรักของทั้งคู่คงจะไปได้สวย หนังสะท้อนให้เห็นความเป็นจริงของชีวิตคู่ถ้าหากใครกำลังทำงานอยู่ไกลแฟนก็หมั่นเติมกำลังใจกันบ่อยๆ นะ อาจจะซื้อของส่งให้กัน มีของพิเศษให้ทุกๆโอกาสพิเศษ คอลหากันบ่อยๆ วันหยุดยาวแวะไปเที่ยวกันบ้างแบบนี้ความสัมพันธ์ของคุณก็น่าจะสดใสนะ

มีหนังมากมายที่สะท้อนสังคมที่ไม่เท่าเทียมทุกเรื่องล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นเพียงความเจ็บปวด
จากความไม่เท่าเทียมนั้นหนัง สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่ เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่สะท้อนสังคมที่ไม่เท่าเทียมในสังคม หนัง เล่าถึงความเท่าเทียมในอินเดียที่ยังมีชนชั้นวรรณะ และห่างไกลมากกับคำว่า สิทธิสตรี โดยผ่านเด็กหญิงคนหนึ่งที่ขี้สงสัยและเธอมีความฝันเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะธรรมดาในศตวรรษนี้ แต่การตัดสินใจของเธอกับเรื่องนี้มันไม่เล็กเลย เพรนา ลูกสาวของคนชนชั้นเรียกได้ว่าค่อนข้างที่จะต่ำในสังคมอินเดีย แต่เธอยังมีสิทธิ์ที่จะเรียนหนังสือได้ คุณจะได้เห็นการต่อสู้เพื่อคามฝันของเด็กหญิงคนนี้ผ่านการเล่นสเก็ต ใช่คุณอ่านไม่ผิดหรอกแค่การเล่นสเก็ตทำไมมันถึงได้สำคัญขนาดนั้น ก็เพราะในสังคมของอินเดียนั้นผู้ชายเป็นใหญ่ความเป็น Feminist คือการต่อต้านผู้ชายและความเชื่อ ผู้หญิงมีหน้าที่ทำอาหาร ทำงานบ้าน และทำตามคำสั่ง โลกแบบนี้คุณคิดว่ามันจะมีความสุขมากแค่ไหนกันกับคนที่มีความฝันว่าสักวันฉันจะต้องเป็นอิสระ จะเป็นยังไงกันถ้าวันหนึ่งสตรีที่ถูกกดขี่สามารถทำได้อย่างที่ใจต้องการ

เพรนา กับการเล่นสเก็ต จุดเริ่มต้นของการแสดงถึงสิทธิของสตรีใน สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่

สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่ เป็นเรื่องราวของ เพรนาสาวน้อยที่อาศัยอยู่ในชนบทอันแร้นแค้น แต่อย่างน้อยที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพอจะมีชาวต่างชาติมาเที่ยวอยู่บ้าง เพื่อหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่เจสซิก้าเป็นอีกคนที่เลือกมาพักร้อนในหมู่บ้านของเพรนาหนัง สะท้อนให้เห็นความต่างทางสังคมตั้งแต่ในหน่วยของสังคมที่เล็กที่สุดนั่นคือในครอบครัว ในโรงเรียน ผู้หญิงไม่มีสิทธิที่จะตัดสินใจ ผู้หญิงทำผิดเพียงน้อยนิดแต่กลับได้รับการลงโทษอย่างหนักนั่นคือความจริงของระบบชายเป็นใหญ่ เพรนาใช้ชีวิตตามที่พ่อของเธอต้องการจนกระทั่งเธอได้พบกับเจสซิก้า หญิงสาวที่มาจากลอนดอน เธอนำความแปลกใหม่มาสู่หมู่บ้านแห่งนี้ เริ่มจาการให้ชุดนักเรียนใหม่แก่เพรนา เจสซิก้าประหลาดใจ และรู้สึกสลดในใจกับล้อเลื่อนของเด็กๆ มาก มันมีหน้าตาคล้ายๆ สเก็ตแต่สภาพก็คือไม้กระดานกับล้อดีๆ นี่เอง เธอปลอบใจเด็กๆ ด้วยการวาดภาพสเก็ตของจริงให้กับเด็กๆ และโชคดีที่เธอมีเพื่อนที่เล่นสเก็ตบอร์ดเป็น เขาเอาสเก็ตบอร์ดมาด้วยและเพรนาก็ได้ลองเล่นสเก็ตเป็นครั้งแรก นอกจากนั้นเธอยังรู้สึกเป็นอิสระเมื่อได้อยู่บนสเก็ตเป็นความรู้สึกที่ทั้งชีวิตเธอพึ่งรู้สึกถึงมัน และนั่นก็คือจุดเปลี่ยนของชีวิตเธอ เจสซิก้าและเพื่อนของเธอตัดสินใจซื้อสเก็ตบอร์ดมาให้เด็กทุกคนในหมู่บ้าน พ่อของเพรนาโกรธมากถึงขั้นเผาสเก็ตนั้นทิ้งแถมยังเร่งรัดให้เพรนาแต่งงานโดยที่ไม่ถามเธอสักคำว่าเธอต้องการหรือไม่แต่เธอจะพูดอะไรได้ในสังคมเช่นนี้ เธอทำได้แค่ยอมรับชะตากรรม 

งานแต่งของเพรนาในที่สุดก็ถูกกำหนดขึ้นใน 7วัน เพรนาทำทุกอย่างเพียงแค่ตามที่พ่อสั่งเธอ
ทำตัวเหมือนร่างไร้วิญญาณ ในอีกด้านหนึ่งเจสซิก้าปรารถนาอย่างแรงกล้าว่าจะทำให้สเก็ตถูกยอมรับจากคนที่นี่ เธอไปขอให้คนที่ชาวบ้านเรียกว่า “รานี/ราชินี” ช่วยจัดงานแข่งขันขึ้นที่หมู่บ้านแห่งนี้ โดยงานจะถูกจัดขึ้นในวันที่เพรนาแต่งงาน และเมื่อถึงวันนั้นความรู้สึกของเพรนามาถึงจุดที่เธอทนไม่ได้อีกต่อไป เธอตัดสินใจหนีงานแต่งของตัวเองโดยมีน้องชายช่วย พ่อและแม่ของเธอก็ตามไปจนถึงงานและได้เห็นเธอไถสเก็ต ในตอนแรกพ่อของเธอจะเข้าไปต่อว่าเธอแต่แม่ของเธอได้ห้ามเขาไว้ เขาถึงได้รู้สึกว่าลูกผู้หญิงก็สามารถทำให้เขาภูมิใจได้ และไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดเลยถ้าลูกจะมีความสุขกับสิ่งที่เขาชอบ สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่ เป็นหนังที่สอดแทรกแนวความคิดของ สิทธิสตรี เอาไว้ได้อย่างกลมกลืน

เรื่องราวของเด็กหญิงใน สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่ เป็นภาพสะท้อนสังคมอินเดีย

หนัง สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่ (Skater Girl) พอดูจบบ่อน้ำตาแตกเลยล่ะ ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันสังคมของอินเดียส่วนใหญ่ยังคงมีแนวความคิดชายเป็นใหญ่อยู่ นั่นอาจจะด้วยอิทธิพลทางศาสนา การเมืองที่ยังหยั่งรากลึกอยู่ในวัฒนธรรม แต่ว่าการเปิดกว้างต่อสตรีเองก็เริ่มมีแล้วเช่นกัน หนังเรื่องนี้เองที่ใช้คนไม่มากแถมยังไม่ใช่คนดังอะไรแต่สะท้อนเนื้อหาออกมาได้ดีมาก ไม่ควรพลาดจริงๆ สำหรับผลงานจาก Netflix เรื่องนี้ถ้าหากคุณคิดว่าชีวิตคุณกำลังมีปัญหาอะไรอยู่ หรือขาดความกล้าที่จะทำในสิ่งที่ชอบลองดูหนังเรื่องนี้บางทีคุณอาจจะได้แรงบันดาลใจหรือความกล้าจากเพรนาก็ได้นะ 

ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีพร้อมทั้งคุณพ่อและคุณแม่ บางคนมีแค่คุณแม่ บางคนมีแค่คุณพ่อ Fatherhood เป็นเรื่องราวของคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งที่เสียภรรยาไปหลังจากที่เธอคลอดลูกได้ไม่นาน ในปัจจุบันเป็นความจริงที่ว่ามีครอบครัวแบบนี้เกิดขึ้นเยอะมากแต่สาเหตุนั้นแตกต่างกันคือ บางครอบครัวเกิดจากความไม่พร้อมของพ่อแม่เด็ก ก็ทำให้เกิดการแยกทางในที่สุด บางครอบครัวก็เกิดจากอุบัติเหตุ หรือสิ่งไม่คาดฝันอื่นๆ ที่ทำให้เกิด Single Mom/Dad ที่เลวร้ายที่สุดคือเด็กกลายเป็นเด็กกำพร้า แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้วสิ่งที่พ่อหรือแม่ของเด็กต้องทำคือเลี้ยงลูกของพวกเขาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเด็กน้อยเขาไม่ได้ผิดอะไร เขาอาจเกิดจากความไม่พร้อม แต่ในบางเคสอย่างไรซะเด็กก็เกิดจากความรักนั่นสำคัญที่สุด ถ้าหากไม่สามารถเลี้ยงให้เขามีความคิดที่ดีได้ในอนาคตเขาจะอยู่ในสังคมแบบไหน จะอยู่ได้ยังไงนั่นคือสิ่งที่พ่อแม่ต้องเตรียมให้เขา
ไม่มีใครที่จะต้องการให้เด็กคนนั้นกลายเป็นเด็กเกเรจริงไหม หนังเรื่องนี้ก็สะท้อนชีวิตส่วนหนึ่งของผู้ชายที่กลายมาเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวโดยไม่ได้ตั้งตัว

แมตต์ และลิซ กำลังมีทายาทตัวน้อย ทุกคนดีใจมากแต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อลิซจากไป
โดยกะทันหัน Fatherhood สะท้อนมุมมองที่แสนเจ็บปวดของคนที่กลายเป็นพ่อ/แม่ เลี้ยงเดี่ยวผ่านแมตต์ชายหนุ่มเรียกได้ว่าค่อนข้างหัวแข็งมีความมั่นใจในตัวเองสูง เศร้าตั้งแต่ต้นเรื่องเลย แมตต์ตัดสินใจจะเลี้ยงแอดดี้ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาด้วยตัวเอง แต่แม่ภรรยาไม่เห็นด้วยเธอเป็นห่วงหลานและไม่มั่นใจในตัวของแมตต์ ทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากันแต่สุดท้ายแมตต์ก็ได้เป็นคนเลี้ยงแมดดี้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องไม่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับเธอ ถ้าหากมีเรื่องเกิดขึ้นคุณยายจะมารับเธอไปทันที นั่นยิ่งทำให้แมตต์กดดันตัวเอง การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งมันไม่ง่ายเลยสำหรับเขา ชีวิตประจำวันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แมตต์ใช้ชีวิตทั้งเลี้ยงลูกและทำงานไปด้วย เขาโชคดีที่หัวหน้างานไม่ไล่เขาออกให้โอกาสอยู่เสมอ รวมถึงเพื่อนสนิทของแมตต์เองก็ช่วยเลี้ยงแมดดี้
เป็นอย่างดีเรื่องราวก็วุ่นวายอยู่พอตัวเพราะทารกถ้าไม่ร้องตลอดเวลาก็นอนตลอดเวลากว่าแมตต์จะผ่านช่วงเวลานี้ไปเขาต้องรีบหาคนปรึกษากล้าที่จะออกไปคุยกับคุณแม่คนอื่นๆ นั่นเป็นจุดแรกที่ทำลายกำแพงความเชื่อมั่นในตัวเองที่มากเกินไปของเขาลง เวลาผ่านไปแมดดี้เข้าโรงเรียนที่แม่ของเธอหวังไว้แต่ก็มีกฎว่า
เด็กนักเรียนหญิงต้องใส่กระโปรงเท่านั้น ในที่สุดแมดดี้ไม่สามารถปฏิเสธได้ ใครจะไปคิดว่าแค่การใส่กระโปรง
ก็สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ นั่นก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียนเช่นกัน ส่วนด้านแมตต์ก็เริ่มเปิดใจให้กับลิซซี่ชื่อเหมือนภรรยาเก่าของเขาโดยคำแนะนำและจัดฉากโดยเพื่อนของแมตต์เอง เหมือนทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นแต่ก็ไม่รู้ว่าแมดดี้จะเข้ากับลิซได้รึเปล่า แถมงานที่ต้องเดินทางเป็นเดือนอีก แมตต์จะจัดการกับเรื่องพวกนี้ได้ยังไงด้วยความเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวของเขาอย่าลืมไปดูน๊า

ความรักที่ประเมินค่าไม่ได้ของพ่อ : Fatherhood

ต้องยอมรับว่าตอนที่ดูภาพยนตร์เรื่อง Fatherhood ในช่วงแรกรู้สึกค่อนข้างน่าเบื่อแต่ว่าพอดูๆ ไปแล้วนี่มันก็คือชีวิตจริงของคนที่เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวนี่มันจะมีอะไรน่าตื่นเต้นกันล่ะ แต่ๆๆๆ อย่าพึ่งท้อไปดูแล้วต้องดูให้จบซึ่งมันคุ้มค่ามาก บอกเลยมีน้ำตาแตก แต่อันนี้อาจจะด้วยความรู้สึกส่วนตัวด้วยความที่ตอนนี้เราเหลือแค่คุณแม่แล้วเลยยิ่งทำให้คิดถึงคุณพ่อมากๆ เราได้เข้าใจว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้โตขึ้นมาได้กว่าจะเดินได้ กว่าจะพูดได้ ยิ่งทารถที่ต้องการความเอาใจใส่ตลอดเวลา คุณพ่อคุณแม่ต้องเหนื่อยมากแน่ๆ ในช่วงแรกของชีวิตเรา แล้วยิ่งต้องเลี้ยงลูกคนเดียวนั่นหมายความว่าคุณต้องเหนื่อยคูณสอง คูณสาม หรือมากกว่านั้นอีก แต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้นะคะ ปัจจุบันมีให้เห็นมากมายคนที่กลายเป็นคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว
ที่ประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น สิ่งที่สำคัญคือรักตัวเองและคิดบวก สุดท้ายก็ขอให้กำลังใจคนที่มีชีวิตคล้ายๆ Fatherhood นะคะ ไปดูค่ะจะได้มีกำลังใจค่า

คุณเคยได้ยินคำว่าความรักไม่มีพรมแดน หรือไม่มีอะไรกั้นไหม? แล้วคุณเชื่อในความรักไหม?
ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่อินกับความรักเราแนะนำหนัง The Siver Sketes สเก็ตสีเงิน หนังน้ำดีจากรัสเซีย หนังรักสะท้อนสังคม ความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในช่วงที่รัสเซียเริ่มจะมีการปฏิวัติ เป็นยุคที่คำว่าความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้นในทุกหย่อมหญ้าคนจนก็จนแบบที่เรียกว่าหาเช้ากินค่ำแบบของจริง คือเงินมีแค่พอกินข้าวเป็นมื้อๆ ไป ส่วนในกลุ่ม
ของชนชั้นสูงผู้หญิงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเรียนในระดับที่สูงกว่าปกติ คือผู้ชายสามารถเรียนวิทยาศาสตร์ได้ แต่ผู้หญิง
มีหน้าที่แค่แต่งงานและมีลูก เป็นหน้าเป็นตาให้กับสามี นอกจากนี้อิทธิพลทางศาสนายังต่อต้านกับวิทยาศาสตร์
ทำให้เกิดความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการรักษาโรค ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้คนในยุคนั้นกลัววิทยาศาสตร์เป็นส่วนใหญ่
เพราะยังเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับผู้คนในยุคนั้น บทของหนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นความเหลื่อมล้ำเหล่านี้ผ่านความรักของ “มัตย์เว” โจรหนุ่มที่ใช้รองเท้าสเก็ตในการชิงทรัพย์ชนชั้นสูง กับ “อลิส” หญิงสาวชนชั้นสูงที่มีหัวคิดสมัยใหม่ กระหายในการเรียนวิทยาศาสตร์ ฟังดูแล้วทั้งสองคนไม่น่าจะมาเจอกันได้เลยนะ ไม่รอช้าไปดูเรื่องย่อกันเลยดีกว่า

เรื่องย่อ Silver Skates: สเก็ตสีเงิน

มัตย์เวชายหนุ่มหน้าตาดีทำงานเป็นเด็กส่งขนม แต่ไม่ทันไรก็ต้องตกงานซะแล้ว เพราะรถม้าของบ้านนางเอกของเราผ่านมาแล้วสั่งปิดถนน ทำให้มันต์เวไปส่งของช้า Silver Skates สเก็ตสีเงิน ส่งบทมาแบบนี้แล้วสองคนเขาจะไปรักกันได้ยังไงล่ะทีนี้ ต่อกันเลยดีกว่า มัตย์เวไม่มีทางเลือกเขาโกรธชนชั้นสูงบ้านนั้นมาก และบังเอิญเจอกับอเล็กซ์ หนึ่งในกลุ่มโจรรองเท้าสเก็ตซึ่งเห็นแววมัตย์เวที่สามารถใช้สเก็ตได้อย่างคล่องแคล่ว อเล็กซ์ชวนมัตย์เวเข้ากลุ่ม ซึ่งกลุ่มนี้มีจุดเริ่มต้นจากความเกลียดชังชนชั้นกระฎุมพีเพราะพวกเขาถูกเอารัดเอาเปรียบดังนั้นจุดหมายของกลุ่มโจรรองเท้าสเก็ต ก็คือการเอาของเล็กๆ น้อยๆ ที่มีค่ามาจากพวกชนชั้นเหล่านี้นั่นเอง อีกด้านหนึ่งอลิสผู้หลงใหลในวิทยาศาสตร์ เธอแสดงความคิดความเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสิทธิสตรีบนโต๊ะอาหารทำให้พ่อของเธอโกรธจัดในความหัวแข็งของลูกสาว เขาวางแผนจะให้ลูกสาวแต่งงานเพื่อสยบความดื้อของเธอในคืนนั้นเองเป็นการลองงานครั้งแรกของมัตย์เวในกลุ่มหลงใหลในวิทยาศาสตร์ มัตย์เวปีนขึ้นไปที่ระเบียงห้อง
ห้องหนึ่งของบ้านชนชั้นสูงที่เขาเกลียด แต่ไม่รู้ความบังเอิญหรือพรหมลิขิต ห้องนั้นเป็นห้องของอลิส ทั้งสองก็ประหม่าแต่เหมือนว่าความรักจะเริ่มก่อตัวขึ้นแล้วล่ะ มัตย์เวเริ่มลังเลที่จะขโมยของแต่พ่อของเขาป่วยหนัก
ทางเดียวที่จะรักษาพ่อได้คือต้องส่งพ่อไปที่เยอรมันเพื่อรักษากับหมอที่ดีที่สุดแต่เขาไม่มีเงินมาพอที่จะทำแบบนั้น มัตย์เวตัดสินใจที่จะทำตามปณิธานของกลุ่มเพื่อหาเงินรักษาพ่อโดยด่วน แต่พ่อของเขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งและขอร้องให้มัตย์เวเลิกทำแบบนี้ เรื่องราวดำเนินไปมัตย์เวกับอลิซมีข้อตกลงกันและนั่นทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขึ้นกระทั่งทั้งสองทนกับการกดขี่ของความเหลื่อมล้ำของที่นั่นไม่ไหว ทั้งสองมีแผนที่จะไปใช้ชีวิตใหม่ที่ปารีส ฝรั่งเศส เรื่องราวน่าติดตามมากเรื่องนี้อย่าลืมดูน๊าชีวิตใหม่ของหนุ่มสาวต่างชนชั้นใน Silver Skates

Silver Skates เป็นหนังรักที่ดูเหมือนจะน้ำเน่ามากถ้าดูจากโปสเตอร์ของหนัง ผู้เขียนเองก็ตัดสินใจอยู่นานว่าจะดูดีรึเปล่าแต่พอได้ดูแล้วไม่ผิดหวังเลย ให้เต็ม 10 คะแนนไปเลยค่ะ ทั้งเนื้อเรื่อง CG ภาพ มันดีไปหมด ใดๆ คือโจรหล่อมาก แต่ก็นั่นแหละนอกเหนือจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นคือเสน่ห์ของภาษารัสเซีย ในหนังมีการใช้หลายภาษามากทั้งรัสเซีย, อังกฤษ, ฝรังเศส เราสามารถเลือกได้ว่าจะฟังเป็นภาษาอังกฤษหรือรัสเซีย แต่ส่วนตัวชอบฟังแบบต้นฉบับซึ่งมันก็ออกมาดีมาก แค่ภาษาก็สะท้อนความสัมพันธ์ของชนชั้นสูงสมัยก่อนที่มีการติดต่อสื่อสารกันยิ่งความสัมพันธ์ทางการทูตของระหว่างประเทศมหาอำนาจผู้ที่รู้ภาษานั้นก็บ่งบอกถึงความเหลื่อมล้ำได้แล้ว สปอยล์ว่าจบดีค่ะต้องดู

ภาพยนตร์สุดระทึก ดับฝันวันสิ้นโลก จาก Netflix ช่วงหลังๆ มานี้มีภาพยนตร์แนวเอาตัวรอดระทึกขวัญลงจอใหม่อย่างต่อเนื่องเลย จะเป็นยังไงถ้าเกิดว่าเราอยู่ในโลกที่มนุษย์ต้องตื่นอยู่ตลอดเวลา บางคนเล่นเกมทั้งวันทั้งคืนยังได้เลย ไม่ต้องพูดถึงคนที่ต้องทำการบ้านโต้รุ่ง หรือทำงานให้ทันเดดไลน์ หลายคนได้เคยลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าหากเราไม่ได้นอนเลยจะเป็นอย่างไร จะเป็นเรื่องที่ดีไหมนะถ้าเราทำงานได้ 24 ชั่วโมงโดยที่ไม่ได้พักเลย แน่ล่ะมันจะไปดีได้ยังไงกัน แสดงให้เห็นว่าระบบต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะสมองจะทำงานหนักจนผิดเพี้ยน ความจำเลอะเลือน และสั่งให้ร่างกายทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่เราต้องการ

เรื่องราวของ ดับฝันวันสิ้นโลก

ดับฝันวันสิ้นโลก เป็นหนังเรื่องราวของโลกที่มนุษย์ไม่สามารถหลับได้แต่ก็ไม่ใช่กับทุกคน มีเพียงคนพิเศษเท่านั้นที่หลับและฝันได้ แต่สาเหตุนั้นไม่รู้ว่าเพราะอะไร “จิล” คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเธอมีลูก 2 คน โนอา ลูกคนโต และมาทิลด้า ลูกสาวของเธอมีความสามารถพิเศษ(สำหรับโลกนี้)คือเธอหลับได้ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่ออยู่ๆ ไฟฟ้าไม่สามารถใช้การได้ รถยนต์ก็เช่นกัน ในขณะนั้นจิลและเด็กๆ กำลังอยู่ในรถทำให้เธอไม่สามารถควบคุมรถได้จนเกิดอุบัติเหตุตกน้ำไป แต่โชคดีที่ทั้งสามคนปลอดภัยดี แต่สถานการณ์เริ่มจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะความหวาดกลัวของคน วันสิ้นโลกใกล้เข้ามาทุกที ผู้คนเสียสติทำลายสิ่งของและทำร้ายกันเอง มาทิลด้าถูกพาไปที่โบสถ์บาทหลวง มีความหวังดีว่าเธอจะสามารถช่วยให้ทุกคนให้สามารถนอนหลับได้เหมือนกับเธอ แต่ผู้คนในโบสถ์นั้นไม่ได้มีความเมตตาเหมือนกับบาทหลวง รวมทั้งพวกเขาแทบจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว ในที่สุดก็เกิดการฆ่ากันเพื่อแย่งตัวมาทิลด้า และเธอต้องพามาทิลด้าไปที่ศูนย์วิจัยเพราะเธอคือทางรอดของมนุษยชาติ แต่จิลไม่ได้คิดจะทำแบบนั้นจริงๆ ในเหตุการณ์นี้เธอได้เจอกับด็อดจ์ นักโทษคนหนึ่ง ด็อดจ์ช่วยจนเธอและลูกๆ มาถึงศูนย์วิจัย จิลและลูกๆ ถูกจับได้ มาทิวด้าถูกนำตัวไปที่ห้องแลป ส่วนจิลและโนอาถูกจับขังไว้ ในห้องแลปหมอโกหกมาทิวด้าว่าจะไม่มีอะไรร้ายแรง แต่ความจริงพวกเขาไม่รู้อะไรเลย เกี่ยวกับการหาคำตอบว่าทำไมมาทิวด้าจึงสามารถหลับได้ และจะใช้เธอสังเวยต่อสิ่งที่กำลังเป็นอยู่

ดับฝันวันสิ้นโลก แสดงถึงความสำคัญของการนอน

การนอนนั้นสำคัญอย่างไร การนอนหลับเป็นเหมือนการพักสมองที่สำคัญ ดับฝันวันสิ้นโลก ได้แสดงให้เห็นผ่านพฤติกรรมของกลุ่มคนที่อยู่ตามท้องถนนในภาพยนตร์แนวเอาตัวรอดจากทาง Netflixว่ามันน่ากลัวมากขนาดไหน เป็นความจริงที่ว่างานวิจัยตลอด 10 ปียังไม่ทราบหน้าที่ของการนอนแน่ชัด แต่เชื่อว่าการนอนมีประโยชน์ดังนี้

• ทำให้สมองได้ทบทวนข้อมูลที่ได้รับมาในแต่ละวันและเปลี่ยนข้อมูลบางส่วนเป็นความจำระยะยาว
• เป็นการสำรองพลังงานในร่างกายใช้ในการเติบโตของร่างกายและเซลล์สมองเอง และเพื่อควบคุมอุณหภูมิของสมองให้เหมาะกับการเติบโต
• เพิ่มประสิทธิภาพของความคิด เช่น สมาธิ การคำนวณ การตัดสินใจ เชาวน์ปัญญาและอื่นๆ (อ้างอิงจาก http://medicalcenter.kmitl.ac.th)

นี่เป็นเพียงแค่บางตัวอย่างของ ความสำคัญของการนอน แต่แค่ 3 ข้อยังแทบจะครอบคลุมทุกอย่างแล้ว ดังนั้นอย่าได้ละเลยการเอาใจใส่ดูแลตัวเองนะ เราควรจะนอนให้ตามที่แพทย์แนะนำ 6-8 ชั่วโมงต่อวันเพื่อให้สมองได้พักผ่อนและเพื่อให้ร่างกายได้ทำงานได้อย่างเต็มที่หนังเรื่อง ดับฝันวันสิ้นโลก ได้แสดงให้เห็นผลเสียต่อร่างกายหากเราไม่ได้นอนเป็นเวลานานว่ามันแย่แค่ไหน ต่อไปนี้ต้องหันมาดูแลตัวเองบ้างแล้วนะอย่างน้อยก็เริ่มจากการนอนเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด และสำคัญพอๆ กับการกินเลยล่ะ

ชนชั้นที่ต่ำที่สุดในที่นี้ ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล ฟังจากชื่อแล้วก็ยังดูแปลกๆ นะ แต่ว่านั่น
เพราะตัวเอกของเรื่องนี้เป็นกลุ่มคนที่อยู่ในอาชีพเก็บขยะอวกาศเพื่อแลกกับเศษเงิน พวกเขาแทบจะถูกลืมด้วยซ้ำไป แม้กระทั่งในอวกาศก็ยังมีชนชั้น แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วบทมีความแตกต่างจากหนังไซไฟเรื่องอื่นๆ อยู่นะ ดูได้เรื่อยๆ เลยแหละ หนังเล่าอีกด้านของความสวยงามของชีวิตในอวกาศผ่านกลุ่มคนในนั้นคือชนชั้นที่เรียกได้ว่าต่ำที่สุด สำหรับใครที่คิดถึง ซงจุงกิ ต้องดูเลยน๊า

แนะนำตัวละครใน ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล

เป็นที่น่าจับตาอย่างมากกับ ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล หนังนอกโลกจากสัญชาติเกาหลีแถมยังได้นักแสดงระดับท็อปเข้ามาเป็นตัวเอกของเรื่องอย่าง ซงจุนกิ (คิมแทโฮ) พระเอกของเรื่อง จากทหารอวกาศมือหนึ่งของ UTS ชีวิตพุ่งสู่จุดสูงสุดของชีวิตในวัยเพียง 20 ปี แต่เขาก็ต้องตกระกำลำบากในจุดต่ำที่สุดของชีวิตและชนชั้นในโลกใบใหม่นี้ เมื่อเขาพบกับทารกตัวน้อย ตัวเขาก็กลายเป็นคนละคน เขาถึงขั้นรับเธอเป็นลูกของตัวเองและไม่สามารถทำงานในกองทัพได้อีกต่อไป นั่นทำให้เขาต้องเร่ร่อนอยู่นาน แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจนเขากับลูกสาวต้องพลัดพรากจากกัน แทโฮไม่เหลือเงินพอที่จะตามหาเธอได้ทันที สุดท้ายต้องมาเป็นคนขับยานเก็บขยะอวกาศทำงานเพื่อแลกกับเศษเงินเพียงน้อยนิดแถมยังเป็นหนี้อีก
กัปตันจาง หญิงผู้มีอำนาจที่สุดในยาน Victory เธอเคยเป็นโจรสลัดมาก่อน มีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวคือฆ่า “เจมส์ ซัลลิแวน” ผู้ก่อตั้ง UTS และทิ้งมนุษยชาติบางส่วนไว้ที่โลกที่มีแต่ซากปรักหักพังและฝุ่นพิษ
ไทเกอร์พาร์ก วิศวกรที่เคยถูกจับคดีค้ายาถ้ากลับโลกเขาจะถูกประหารชีวิตทันที แต่เมื่อเจอ
กับความไร้เดียงสาของเด็กเขาก็กลับใจทันที
บั๊บส์ หุ่นยนต์ทหารที่ถูกตั้งโปรแกรมใหม่แต่ความจริงแล้วบั๊บส์เป็นผู้หญิงนะ บั๊บส์มีความฝันที่จะมีร่างกายที่สวยงามปกปิดร่างเหล็กเอาไว้แถมยังรักการเรียนรู้สุดๆ ไปเลย เสียแค่พูดเก่งไปหน่อย
คิมกนนิม เด็กน้อยวัย 7ขวบ ถูกเรียกว่า “โดโรธี” เธอถูกเข้าใจผิดว่าเป็นระเบิดสังหาร เธอเกิดมาไม่ปกติแต่ด้วยการรักษาอย่างสุดความสามารถของพ่อ ทำให้กนนิมสามารถเดินได้แถมการรักษาครั้งนี้ยังมอบความพิเศษให้เธออีกด้วย กนนิมสามารถทำให้ต้นไม้ที่ตายแล้วกลับมามีชีวิตออกดอกออกใบได้ และนั่นทำให้ซัลลิแวนไม่ชอบเอาเสียเลย

สปอยล์ภาพยนตร์ : ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล

ภาพยนตร์เกาหลีไม่ค่อยได้มีเรื่องเกี่ยวกับอวกาศเท่าไรนัก แต่ ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล ทำออกมาได้ดีมาก เอาล่ะเข้าเรื่องเลยในขณะที่แทโฮ, พาร์ก และบั๊บ สมาชิกกลุ่มยาน Victory ที่ทำอาชีพเก็บขยะอวกาศ กำลังทำการซ่อมยานอยู่ก็ได้เจอกับกระสวยอวกาศประหลาด ข้างในมีสิ่งมีชีวิตอยู่นั่นคือโดโรธี หุ่นยนต์ที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง แต่เธอเป็นที่ต้องการของ UTS และกลุ่มโจรอื่นๆ ดังนั้นกลุ่มยาน Victory จึงได้ลงความเห็นว่าจะจับเธอเรียกค่าไถ่จากกลุ่มแบลคฟ็อกซ์ เพราะทุกคนในยานนี้เรียกได้ว่าเกินกว่าคำว่าถังแตกแต่การส่งมอบตัวโดโรธีก็ล้มเหลวเพราะซัลลิแวนเข้ามาขวาง สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ถูกซัลลิแวนจับไปทุกคน ในตอนนั้นเองซัลลิแวนได้บอกความจริงไปว่าที่เขาทำทั้งหมดนี้ก็เพราะเกลียดชังมนุษย์ด้วยกันจากความทรงจำในวัยเด็ก และมนุษย์ที่เหลือนั้นสมควรแล้วที่ต้องตายอย่างทรมาน และโครงการใหม่ของเขาที่ดาวอังคารก็เป็นการบีบบังคับให้โลกไม่สามารถอยู่ได้ยิ่งไปกว่านั้นคือจะส่งโดโรธีไปถล่มโลกให้สิ้นซาก แต่ซัลลิแวนไม่รู้เลยว่าตอนนั้นพวก Victory ได้อัดคลิปไว้หมดแล้ว ความศรัทธาของเขาจบสิ้นลงตั้งแต่ตอนนั้น กลุ่มVictory เอาตัวรอดออกมาจากอันตรายได้หลายครั้งด้วยพลังของสาวน้อยกนนิมแล้วจะช่วยกนนิมน้อยได้หรือไม่นะ มาถึงจุดที่ทั้งลุ้นและซึ้งไปในเวลากัน หมายความว่าหนังก็จะจบนั่นเอง ต้องตามปดูต่อกันให้ได้เลยนะคะ

ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล มีความคล้ายกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ภาพยนตร์ ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากเกาหลีที่พึ่งได้ลงจอใน Netflix และยังติดอันดับฮิตอีกด้วย ภาพสมจริงมาก บทไม่เฉื่อย ได้ลุ้นตามสมกับเป็นแนวไซไฟแต่ก็มีความคอมเมดี้อยู่ ไม่ได้เครียดทั้งเรื่องรวมๆ แล้วคือกำลังดี ดูได้ทุกคน ใครจะไปคนว่าแค่กลุ่มคนเก็บขยะอวกาศที่มีความคิดจับเด็กเรียกค่าไถ่จะกลายมาเป็นกลุ่มคนที่พิทักษ์โลกซะงั้น แถมยังเข้ากับบรรยากาศตอนนี้เลย โลกที่กำลังจะพังทลายนั้น เหมือนกับโควิดที่มีอยู่ตอนนี้เลย ผู้คนไม่มีความสุข งดออกจากบ้าน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราถึงจะได้เลิกในแมสกันสักที พูดแล้วก็อยากเที่ยวขึ้นมาทันที แต่ทำได้แค่นี้ก็ขอแนะนำหนังเรื่องนี้ไว้กับทุกคนนะ