หากจะหาหนังฝรั่งน่าดูหรือหนังอิโรติกน่าสนใจ ที่สามารถดูได้ที่บ้านผ่านระบบสตรีมมิ่งอย่าง NETFLIX  เราของแนะนำภาพยนตร์เรื่อง 365 DNI หนังอิโรติกสัญชาติโปแลนด์ซึ่งดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเรื่อง 365 DNI ของนักเขียน “บลังกา ลิพินสกา” ซึ่งกำกับและเขียนบทโดย “บาร์บารา เบียวอวัส” และ “โทมาสซ์ มันเดส” ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เป็นที่พูดถึงกันทั้งในโซเชียลและยอดผู้เข้าชมเป็นอันดับที่ 1 ของ NETFLIX นานเป็นสัปดาห์ แต่ในทางกลับกันนักวิจารณ์และสื่อต่างๆกลับให้คะแนนรีวิวที่ต่ำมาก ทำให้หนังฝรั่งเรื่องนี้นั้นเป็นที่ถูกจับตามองและมีกระแสพูดถึงเป็นวงกว้าง

ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : 365 Days (365 DNI)

ชื่อเรื่องภาษาไทย : 365 วัน

ประเภท : อิโรติก

ภาษา : โปแลนด์, อิตาเลี่ยน, อังกฤษ

แนว : โรแมนติก, ดราม่า, อิโรติก

ฉายเมื่อ : 7 กุมพาพันธ์ 2020

เวลา : 114 นาที

คะแนน IMDB : 3.3

365 DNI : เรื่องย่อ

หนังอีโรติกเรื่อง 365 DNI เป็นเรื่องราวของ “มัสซิโม” (รับบทโดย มิเคเล มอร์โรเน) ซึ่งเป็นลูกชายของหัวหน้าแก๊งมาเฟียซิซิเลี่ยน ซึ่งมัสซิโมได้ไปตกหลุมรักผู้หญิงคนนึงที่ชื่อว่า “ลอร่า” (รับบทโดย อันนา-มาเรีย เชกลูสกา) ในขณะที่ที่มัสซิโมกำลังส่องกล้องส่องทางไกลและพ่อของเขากำลังจะถูกลอบสังหารบนดาดฟ้า ในวันนั้นพ่อของเขาต้องจบชีวิตลง แต่พอเวลาผ่านไปใจของมัสซิโมนั้นคิดถึงแต่ลอร่าผู้หญิงบนดาดฟ้า เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี มัสซิโมก็ได้ไปพบกับลอร่าโดยบังเอิญเข้าที่เกาะซิซิลี มัสซิโมจึงลักพาตัวเธอและให้เวลา 365 วันกับลอร่าในการที่มัสซิโมจะทำให้ลอร่าตกหลุมรักเขา

365 DNI : แนะนำตัวละคร

มัสซิโม ทอลลิเซลลี่

มัสซิโม ทอลลิเซลลี่ (รับบทโดย มิเคเล มอร์โรเน) พระเอกของเรื่อง 365 DNI มีลักษณะที่เป็นคนเอาแต่ใจ ต้อกงการอะไรก็ต้องได้ อยากทำอะไรก็ต้องได้ทำซึ่งเป็นผลมาจากการที่ครอบครัวของพระเอกนั้นเป็นเจ้าของแก๊งมาเฟีย ทำให้พระเอกนั้นค่อนข้างที่จะมีฐานะมากๆ แต่ที่ดีงามยิ่งกว่าภูมิฐานของครอบครัวพระเอก ก็คือหน้าตาที่หล่อและหุ่นที่แซ่บของพระเอกนี่ล่ะ ที่ทำให้ผู้ชมที่เป็นผู้หญิงและเหล่า LGBTQ+ ต่างหลงใหลในความหล่อของเขา ทำให้หนังฝรั่งเรื่องนี้นั้นกลายเป็นที่พูดถึงเป็นวงกว้างและทำให้หนังเรื่องนี้ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 1 ใน NETFLIX

ลอรา บีล

ลอรา บีล (อันนา-มาเรีย เชกลูสกา) นางเอกของเรื่อง 365 DNI เธอเป็นผู้จักการฝ่ายขายของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอนั้นเป็นคนที่มีแฟนอยู่แล้ว แต่แฟนของเธอนั้นกลับไม่ค่อยให้ความสนใจในตัวเธอและไม่มีเวลาให้เธอมากเท่าที่ควร ทำให้เธอนั้นอดอยากเรื่อง Sex มาก ซึ่งการที่เธอนั้นได้มาพบกับพระเอกที่เกาะซิซิลีนั้น เหมือนกับการเข้าทางนางเอกมากที่มีหนุ่งหล่อมีภูมิฐานมาตกหลุมรักและต้องการจะครอบครองเธอ ทำให้หนังฝรั่งเรื่องนี้เป็นหนังอีโรติกที่มีการวางบทอีโรติกผ่านทางตัวละครนางเอกแทบทั้งสิ้น

365 DNI : ด้านเนื้อเรื่อง นักแสดง และฉากอิโรติกสุดหวือหวา

เนื้อเรื่อง

เนื้อเรื่องของ 365 DNI นั้นค่อนข้างที่จะมีลักษณะที่เป็นเส้นตรง เข้าใจง่ายตามแบบฉบับของหนังอีโรติกทั่วไปตามท้องตลาด แต่การผูกปมทั้งความคลั่งใคล้ของพระเอกที่มีต่อนางเอกของเรื่อง และปมเรื่องความต้องการและความห่างหายเรื่อง Sex ของนางเอกนั้นที่นำมาผูกโยงกับเรื่องราวของตัวพระนางนั้น ทำให้เนื้อเรื่องในช่วงแรงนั้นมีความลุ้นและฟินมากกับฉากอย่างว่า แต่พอไปท้ายเรื่องกลับกลายเป็นว่าหนังฝรั่งเรื่องนี้ดรอปความน่าสนใจลงไปพอสมควร ถึงแม้ว่าจะมีหลายปมที่ยังไม่คลี่คลายก็ตาม 

นักแสดง 

นักแสดงของเรื่อง 365 DNI นั้น ทั้งตัวพระเอกอย่าง มัสซิโม ทอลลิเซลลี่ (รับบทโดย มิเคเล มอร์โรเน) และนางเอกของเรื่อง ลอรา บีล (อันนา-มาเรีย เชกลูสกา) มีลักษณะที่เหมาะสมและรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดทางเพศสมกับเป็นตัวละครในหนังอีโรติก ทำให้หนัง NETFLIX เรื่องนี้สามารถทำให้คนดูฟินกับตัวละครและการกระทำของตัวละครในเรื่องได้ง่ายมากๆ แต่ก็มาติดปัญหาตรงตัวละครนางเอกที่พอท้ายเรื่องนั้นเธอได้ย้อมผมและเปลี่ยนลุคตัวเองไปมาก อาจทำให้หนุ่มๆหลายๆคนไม่ค่อยชอบเสียเท่าไหร่นักแต่ก็อาจมีบางคนที่ชอกก็ได้ แต่ส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยชอบนางเอกลุคนี้เท่าไหร่นัก

ฉากอิโรติก

หนังอีโรติกเรื่อง 365 DNI มีฉากอีโรติกที่เป็นการไล่ระดับของเรื่องบนเตียงจากตั้งแต่ฉากที่นางเอกยั่วพระเอกในห้องน้ำไปจนถึงฉากที่พระเอกและนางเอกมี Sex กันครั้งแรก เป็นการไล่ระดับให้คนดูได้รู้สึกฟินมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การไล่ระดับแบบนี้ทำให้พอไปจนถึงกลาง-ปลายของเรื่อง ฉากอีโรติกระกว่างพระเอกและนางเอกกลับดูไม่หวือหวาแบบในตอนต้น-กลางของเรื่อง ทำให้หนังอีโรติกเรื่องนี้นั้นแทบจะไม่มีความน่าเสพในช่วงท้ายของเรื่องไปมากกว่าเนื้อเรื่องเรื่องของหนัง และหากไปเปรียบเทียบกับหนังอีโรติกรุ่นพี่อย่าง Fifty shades เรื่อง 365 DNI อาจทำให้คุณผิดหวังพอสมควร

บทสรุป 365 DNI

หนังอีโรติกเรื่อง 365 DNI เป็นหนังอีโรติกน่าดูอีกเรื่องเรื่องจากระบบสตรีมมิ่งชื่อดังอย่าง NETFLIX ซึ่งสร้างกระแสการพูดถึงเป็นวงกว้างในโลกโซเชียล มีอารมณ์ครบรสตั้งแต่ความตื่นเต้นเร้าใจ บรรยากาศความเป็นบ้านเมืองอิตาลีไปจนถึงความสัมพันธ์ของตัวละครที่มีความซับซ้อนทั้งอารมณ์ ความเร้าร้อนในเรื่อง Sex ของพระเอกนางเอก แต่ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้น หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดูเพลินและสนุก แต่ไม่สามารถตอบโจทย์ความคาดหวังของแฟนหนังอีโรติกได้ 100% และยังไม่สามารถก้าวข้ามหรือมาทดแทนหนังอีโรติกในตำนานขวัญใจมหาชนอย่าง Fifty shades ได้ แต่โดยรวมเรื่องนี้ถือว่าผ่าน

ดู หนังยอดนิยม จากทาง NETFLIX ส่งท้ายปีมีอะไรน่าดูบ้าง

อัพเดทก่อนใครกับ หนังยอดนิยม ผ่านทางเว็บไซต์ pander4you.com ที่ได้รวบรวมหนังใน Netflix ติดอันดับ

ที่กำลังเป็นกระแสของคนไทยที่ได้หลั่งไหลเข้าไปดูในช่วงเวลายามว่าง ที่ได้ยกมาทั้งหนังไทยและหนังต่างประเทศ ที่มีมากมายให้ดูหลายแนว ที่มีความแตกต่างและครบรสอย่างแน่นอน 

ไม่ว่าจะเป็นหนังแอคชั่น หนังระทึกขวัญ หนังฮาๆ ก็มีให้เลือกดู โดยหนังดีบอกต่อที่อยากจะแนะนำ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 5 เรื่องด้วยกัน สามารถดูมันส์ ๆ หลาย ๆ เรื่องรวดเดียวจบได้เลย เพราะเฉลี่ยต่อเรื่องอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ไปดูกันเลยดีกว่า หนังยอดนิยม มีเรื่องอะไรบ้าง

1.ปริศนารูหลอน

(https://drama.kapook.com/view249122.html)

หนังยอดนิยม จากทาง NETFLIX เรื่องแรกเป็นหนังไทยที่อยากจะแนะนำให้ไปลองหาดู โดยอย่างที่ทราบกันดีว่าความดำมืดของอดีตมักจะกลับมาทักทายปัจจุบันอยู่เสมอ เช่น เรื่องราวเดียวกันกับ “พิม” และ “พัท” สองพี่น้องหนุ่มสาวที่มีเหตุต้องไปอยู่กับปู่กับย่าเนื่องจาก “ใหม่” ผู้เป็นแม่ได้เข้าโรงพยาบาล และเมื่อได้ไปอยู่ที่บ้าน ทั้งคู่ก็พบเรื่องราวสุดประหลาด ที่เต็มไปด้วยความหลอน ที่รูปริศนาปรากฏขึ้นมาอย่างลึกลับ ชวนให้ผู้ชมอย่างจะไขรูลับนี้ไปด้วยกัน โดยความยาวของหนังจะอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 5 นาที

2.คนคลั่งแค้น ปล้นผ่านรก

(https://mereview.in.th/synopsis-wrath-of-man/)

หนังที่เรียกได้ว่ามีฉากบู๊สุดเข้มข้นที่กำลังเป็น หนังยอดนิยม ใน Netflix โดยเรื่องจะเปิดฉากที่รถหุ้มเกราะคันหนึ่งได้ทำการขนย้ายของสำคัญ แต่ทว่าขณะออกไปก็ดันโดนปล้นอย่างไม่ตั้งตัว โดยกลุ่มโจรทำเนียนเป็นคนก่อสร้างถนน ที่เอารถขนปูนมาขวาง แต่พอขวางเท่านั้นแหละก็กระหน่ำปืนยิงเลย และเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จึงได้มีการว่าจ้าง “H” ที่จะเป็นพนังงานใหม่ในการขนยาย ประกบคู่กับ “บุลเลท” พี่เลี้ยงคู่หูที่จะต้องทำงานปกป้องรถหุ้มเกราะ และแน่นอนว่าก็เกิดการปล้นอีกครั้ง แต่ก็โดน “H” จัดการแบบสิ้นราย และเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อต้องรีบดู หนังไม่ควรพลาด Netflix โดยความยาวของหนังจะอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 58 นาที

3.นาคามรกต

(https://intrend.trueid.net/article/%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7-%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B0-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%95-green-snake-2021-%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%88%E0%B8%8D%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7-netflix-trueidintrend_253075)

หนังยอดนิยม ที่จัดว่าอยู่ในหมวดหนังใน Netflix ที่มาในรูปแบบอนิเมชั่นที่มีภาพสวยดูดีที่ให้บรรยากาศสไตล์จีน ๆ ว่าด้วยเรื่องของนาคา 2 พี่น้อง หรือก็คือเป็นนางพญางูเขียว และนางงูขาว ตั้งใจที่จะถล่มวัดจินชานที่เต็มไปด้วยแมลงที่ดุร้าย แต่ทว่าพระรูปหนึ่งก็ได้ทำการปกป้องวัดนี้ไว้ จนทำให้นางพญางูขาวถูกดูดกลืนหายไป แต่ก่อนหายไปก็ได้ฝากเด็กทารกให้นางพญางูเขียวดูแล แต่นางพญางูเขียวก็เลือกที่จะไม่ยอมแพ้ จึงถูกดูดกลืนย้ายไปอีกมิติหนึ่งเพียงลำพัง และนั่นก็ทำให้ไปอยู่ในโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยกิเลสและตัณหา ซึ่งต้องบอกเลยว่างานภาพเรื่องนี้จัดเต็มสุด ๆ ไปเลย โดยความยาวของหนังจะอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 10 นาที

4. EXTREME JOB

(https://reviewsnung.com/archives/3678)

คราวนี้มาทางฝั่งเกาหลี หนังยอดนิยม ใน Netflix กันบ้างดีกว่า ว่าด้วยเรื่องของทีมตำรวจที่มีผลงานไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ และด้วยความที่อยากจะสร้างผลงานเจ๋ง ๆ ให้เป็นที่ยอมรับ ก็มีความต้องการที่จะจับแก๊งขายยาให้ได้ ที่โดยปกติก็ควรจะต่างสืบแบบเรียบ ๆ แต่ตำรวจทั้ง 5 ดันเรื่องเปิดร้านขายไก่ทอดดักสุ่มแก๊งค้ายาที่คาดว่าจะอยู่แถวนั้น แต่กลายเป็นว่าร้านไก่ทอดที่เปิดเนียน ๆ กับอร่อยสุด ๆ จนลูกค้าเข้ามาเพียบ เลยกลายเป็นเรื่องยุ่ง ๆ ของตำรวจขายไก่ ที่เรียกได้ว่าฮา บ้า และบู๊ดีเดือดมาก เป็นหนังที่ทุกคนต้องดู โดยความยาวของหนังจะอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 51 นาที

ดู ซีรีย์ไทยน่าดู เรื่องไหนดีการันตีความฟินจิกหมอน

ในบทความนี้ที่ทาง pander4you ก็ได้ขนความสนุกที่ให้ทุกคนมาได้ดูแบบจัดหนักจัดเต็มกับ ซีรีย์ไทยน่าดู ที่ดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบ รับประกันความหวาน ความฟิน เข้มข้นถึงใจ ชวนเคลิ้มแบบฉุดไม่อยู่ หากใครที่พลาดดูซีรีย์เหล่านี้ บอกเลยว่าให้รีบดูเลย จะดูตอนนี้หรือวันหยุดก็สนุกได้ เพียงแค่เปิด Netflix หรือเปิดผ่าน LineTV ซึ่งก็จะมีเล่าเรื่องย่อแบบสั้น ๆ กระชับแบบเข้าใจง่าย ๆ ให้พอหอมปากหอมคอกันสักเล็กน้อย ว่าแล้วไปดูด้วยกันดีกว่าว่ามี ซีรีย์ยอดนิยม เรื่องอะไรบ้าง

1.เพราะเราคู่กัน

(https://www.sanook.com/movie/95785/) เรื่องนี้จัดว่าเป็น ซีรีย์ติดอันดับ เทรนด์ทวิตเตอร์และโด่งดังไปทั่วโลก จนถึงขนาดที่มีคนต่างชาติเลือกเรียนภาษาไทยเพราะอยากดูซีรีย์เรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกียวกับ “สารวัตร” หนุ่มสุดฮอตมือกีตาร์ประจำมหาลัย ที่ดันบังเอิญโดน “ไทน์” หนุ่มหล่อหน้าใสที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อนตามจีบ เพียงเพราะดันโดนกระเทยอย่าง “กรีน” ที่ตามวอแวไม่เลิก จนกลายเป็นว่าสถานการณ์เหล่านั้นก็ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น และทำให้ทั้งคู่ต้องหัวใจเต้นตึกตัก ที่ได้นำบทเพลงจากวง Scrubb มาเพิ่มบรรยากาศกับตัวเรื่องได้เป็นอย่างดี เลยทำให้ ซีรีย์ไทยน่าดู เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาด

2.ทฤษฎีจีบเธอ

(https://www.sanook.com/movie/82305/)

เรื่องนี้จัดว่าเป็น ซีรีย์ไทย gmm ที่ไม่ควรพลาดอย่างแรง เป็นเรื่องราวของ 2 หนุ่มที่เป็นเพื่อนซี้แน่นปึกอย่าง “ค่าย” กับ “เติร์ด” ที่ดูเหมือนว่าเติร์ดแอบหลงรักค่ายมานานแล้ว แต่ก็ไม่กล้าที่จะเปิดเผยใจ อีกทั้งค่ายเองก็เป็นหนุ่มสุดฮอตที่เรียกได้ว่าเจ้าพ่อแห่งความเจ้าชู้ที่ชอบจีบสาวและเทสาวโดยที่เติร์ดต้องคอยแบกรับ แต่ทว่าวันหนึ่ง “แก๊งโหด” ที่มีสมาชิกอย่างตัวเอก 2 คน กับเพื่อนอีก 2 คน อย่างโบนและทู ที่ทูดันมารู้ว่าเติร์ดแอบชอบค่าย เลยเชียร์ให้เริ่มจีบค่ายก่อน แต่ยังไม่ทันเริ่มค่ายก็ดันมาจีบเติร์ดก่อนซะงั้น งานนี้เลยเกิดเป็นความรักที่ไม่ทันได้ตั้งตัว หากเล่ามากกว่านี้จะไม่สนุก ขอยกให้เป็น ซีรีย์ไทยน่าดู

3.รักฉุดใจนายฉุกเฉิน

(https://gossipstar.com/tv/one31/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%89%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%89%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%B4%E0%B8%99-my-ambulance)

สำหรับเรื่องนี้เป็น ซีรีย์ไม่ควรพลาด เพราะเป็นเรื่องราวของสาวที่ชื่อ “ทานตะวัน” ที่มีแฟนหนุ่มดีกรีเป็นหมออย่าง “เป้ง” ที่คบกันมานานกว่า 15 ปี แต่เหมือนว่าความรักทั้งคู่มันจืดจางลง แต่อย่างไรก็ตามก็ทำให้คบกันมาได้เรื่อย ๆ แต่ทว่าวันหนึ่งที่ทั้งคู่ได้ทะเลาะกัน ก็เกิดอุบัติเหตุรถชน โดยทานตะวันความทรงจำขาดหาย ในขณะที่หมอเป้งขับรถชนรถยนต์อีกคันที่มีเด็กนั่งมาอยู่ด้วยเสียชีวิต แต่เมื่อทานตะวันสืบทราบ ก็ทำให้รู้ว่าความจริงแล้ว เด็กที่นั่งมาไม่ได้เสียชีวิตจากการชน แต่ดันเกิดจากหมอรักษาผิดพลาดต่างหาก เลยทำให้ทานตะวันต้องปะทะกับ “ฉลาม” เพื่อหาความถูกต้องให้หมอเป้ง แต่หัวใจดันหวั่นไหวซะงั้น แค่เนื้อหาที่เล่าไปก็กลายเป็น ซีรีย์ไทยน่าดู แล้ว

4.สุภาพบุรุษสุดที่เลิฟ

(https://shopspotter.in.th/content/great-men-academy)

ซีรีย์ยอดฮิตที่เรียกได้ว่าเป็นงานชั้นดีอีกเรื่องหนึ่ง โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนที่สอนความเป็นสุภาพบุรุษเพียบพร้อมทุกด้าน ตัวเอกของเรื่องเป็นสาวที่ชื่อว่า “เลิฟ” บังเอิญได้ไปช่วยม้ายูนิคอร์นที่ในเรื่องว่ากันว่าจะทำให้พรที่ขอสมหวังเป็นจริง เลยขอให้ “สมหวังในความรัก” แต่กลายเป็นว่าจู่ ๆ เธอก็กลายร่างเป็นผู้ชายซะงั้น เธอเลยคิดว่าหรือนี่อาจเป็นสัญญาณที่ให้เข้าไปโรงเรียนแห่งนั้น เพื่อที่จะได้ตามจีบ “เวียร์” รุ่นพี่ที่ตัวเองแอบปลื้ม แต่เธอได้เข้าไปพบความวุ่นวายมากมายและถูกเวียร์ไม่ชอบขี้หน้า ในขณะที่เพื่อนเวียร์อย่าง “แตงโม” ก็เขามาวุ่นวายและให้ความช่วยเหลือเธออยู่บ่อยๆ ซึ่งนับว่าเป็น 6 ซีรีย์ไทยน่าดู มากๆ

5.นายคะอย่ามาอ่อย

(https://drama.kapook.com/view241043.html)

ซีรีย์ดัง 2021 ที่ยกทัพความสนุกมาด้วยตัวเอกสาวอย่าง “นุ่มนิ่ม” สาวน้อยสุดน่ารักที่เพิ่งเรียนจบมาหมาด ๆ เธอได้ไปแฮงค์เอ้าท์ฉลองกับเพื่อน ๆ ที่บาร์ แต่ดันเจอหนุ่มญี่ปุ่นสุดหล่อที่เรียกได้ว่าใครเห็นต้องเป็นหลงมาละลายหัวใจ ทำให้เธอได้จูบกัน และก็แยกจากกันไป โดยไม่ได้สานต่อ เมื่อความรักเกิดขึ้น ความบังเอิญก็เกิดขึ้นด้วย เมื่อนุ่มนิ่มได้งานใหม่ แต่เจ้านายดันเป็นบอสของเธอซะงั้น มันทำให้เธอไม่รู้จะอยู่ในสถานะใด ทำตัวไม่ถูก หรือจะเดินหน้าต่อไงดี ในขณะที่บอสสุดฮอตก็พยายามอ่อยอย่างเนียน ๆ ให้เธอมาติดกับเขาซะงั้น อยากรู้ว่า ซีรีย์ไทยน่าดู ก็สามารถหาดูกันได้เลย

6.หอนี้ชะนีแจ่ม (มีทั้งหมด 4 ตอน)

(https://drama.kapook.com/view221101.html)

สำหรับเรื่องนี้เป็นซีรีย์ไทยน่าดู แบ่งเป็นคู่ทั้งหมด 4 คู่ โดยเนื้อเรื่องจะมีการผสานกันบ้าง แต่สามารถแยกดูในแต่ละตอนได้ ในส่วนที่จะมาเล่าขออนุญาตยกมาสัก 2 ตอน โดยเรื่องแรก เป็นตอน “ยามหล่อ … บอกต่อว่ารัก” โดยเรื่องของเรื่องได้มียามมาเป็นเจ้าหน้าที่เฝ้าทางเข้าทางออกหอ ที่มีดาราสาวแสนสวยกำลังจะดังก็อยู่หอนี้ ได้บังเอิญมารู้จักกัน แต่ต่างไม่มีใครรู้ว่าสถานะของใครเป็นอย่างไร แต่เมื่อรู้ก็ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่กำลังรู้สึกดีต้องสั่นคลอน นำไปสู่เรื่องราวที่เรียกได้ว่าเข้มข้นและน่าติดตาม

เรื่องที่สอง เป็นเรื่องราวในตอน “วินนี้ ดีต่อใจ” ว่าด้วยเรื่องสาวขี้กลัวที่เพิ่งซิ่วและได้เข้าไปเป็นเด็กปี 1 ได้มาอยู่หอ (ที่เดิมจากตอนแรกที่ได้เล่าไป) ดันมาพบเจอกับความเจ็บปวดอีกครั้ง กับรุ่นพี่ที่เคยเป็นแฟนคนแรกของเธอ ที่ตอนนี้กำลังขับวินมอเตอร์ไซต์และตามวุ่นวายกับเธออยู่ไม่ใช่น้อย ในขณะเดียวกันก็ได้มีหนุ่มในมหาลัยได้มาชวนทำให้เธอต้องหัวใจเต้นตึกตัก งานนี้ความรักของคน 3 คน จะจบลงเช่นกัน ก็สามารถติดตามดูซีรีย์ไทยน่าดู นี้กันได้

ก็จบกันไปแล้วกับการแนะนำ ซีรีย์ไทยน่าดู ที่รับรองฟินกระจาย และชวนให้หัวใจเต้นตึกตัก กับเรื่องหวาน ๆ ที่สามารถบอกต่อหรือแชร์ให้เพื่อนดูได้ ซึ่งซีรีย์ก็การันตีความสนุก ที่หากใครไม่ได้ดูบอกเลยว่าพลาดมากกับการดูซีรีย์สนุกๆ โดยช่องทางที่หาดูได้จะมีทาง Netflix ในขณะที่บางเรื่องจะต้องดูผ่าน Line TV

สิ้นสุดการรอคอยกับภาคต่อของ The Princess Switch (Switched Again) ขอเท้าความถึงภาคแรกก่อนสักหน่อยค่ะเพราะห่างหายมานานตั้งแต่ปี 2018 สเตซี่สาวนักอบขนมธรรมดาๆ คนนึงกำลังจะเข้าแข่งขันอบขนมครั้งสำคัญของชีวิต และบังเอิญได้เจอกับมากาเร็ตเจ้าหญิงแห่งมอนเตนาโร บังเอิ๊ญบังเอิญที่ทั้งสองหน้าตาเหมือนกันเป๊ะ มากาเร็ตต้องการเรียนรู้ชีวิตของสามัญชนและประชาชนของเธอในอนาคต ทั้งสองคนจึงทำการสลับตัวกัน ความอลวนวุ่นวายก็ได้เกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเกิดการสลับคู่รักที่พลิกล็อคสุดๆ เจ้าหญิงสูงศักดิ์รักกับคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวเพื่อนสนิทของสเตซี่ ส่วนหญิงสาวธรรมดาก็ตกหลุมรักเจ้าชายเข้าเต็มเปา เวลาแค่ไม่กี่วันความรักก็เกิดขึ้นได้นะเออ เพราะว่าต่างคนต่างเจอในสิ่งที่ตัวเองขาดหายไปนั่นเองแหละ เราก็สบายใจไปแล้วนะกับตอนจบที่ทุกคน Happy แต่แม้ในภาคแรกดูเหมือนจะจบแบบ Happy ending จะเป็นยังไงเมื่อความรักของคู่หนึ่งมันไปต่อไม่ได้ เปิดมาขนาดนี้แล้วคงต้องแอบสปอยล์สักหน่อยแล้วค่ะ

สลับแล้วสลับอีกเพื่อความรัก : The Princess Switch (Switched Again)

นี่จะเป็นเรื่องราว The Princess Switch (Switched Again) หลังจากสเตซี่แต่งงานกับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดทั้งคู่ก็เริ่มมีเวลาให้กันน้อยลงเพราะสเตซี่ต้องการจะเป็นเจ้าหญิงที่สมบูรณ์แบบเธอรักการทำงานการกุศลโดยเฉพาะบ้านเด็กกำพร้า ในด้านมากาเร็ตเธอมีหน้าที่ที่จะต้องขึ้นเป็นราชินีของมอนเตนาโรซึ่งนั่นทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเควินต้องจบลงแหละเหลือเพียงสถานะเพื่อน สเตซี่ไม่พอใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่ ก่อนงานพิธีขึ้นครองราชย์ของมากาเร็ต เธอจึงเสนอให้ทั้งสองคนสลับตัวอีกครั้งเพื่อให้มากาเร็ตได้ปรับความเข้าใจกับเควิน และมันก็ไปได้สวยเลยล่ะ ด้วยการสลับตัวครั้งนี้สเตซี่เธอไม่ได้บอกสามีของเธอเอ็ดเวิร์ดที่ตอนนี้กำลังระหองระแหงกันอยู่ เอ็ดเวิร์ดต้องการคำปรึกษาจากมากาเร็ตเพราะเขาเริ่มไม่แน่ใจว่าสเตซี่ยังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า ทั้งสองก็ได้ปรับความเข้าใจกันแบบบังเอิญ(เรียกว่าสเตซี่ได้รู้ความในใจของสามีดีกว่า เธอถึงได้ตระหนักว่าเธอลืมสิ่งสำคัญที่สุดไป) แต่คราวนี้พวกเธอไม่ได้สลับกันแค่สองคน ใช่แล้ว มีอีกคนที่เข้ามาสลับตัวนั่นคือฟีโอน่าญาติของมากาเร็ตที่ต้องการขึ้นเป็นราชินีเพื่อขโมยของมีค่าทุกอย่างไป ฟีโอน่าเป็นคนฟุ่มเฟือยมาก และเธอใช้มรดกจนหมดแล้วเธอจึงต้องทำทุกทางเพื่อหาเงิน ทุกทางแบบแปลกๆ อะนะ เรื่องวุ่นๆ
ก็ได้เกิดขึ้นหนักกว่าเดิม ฟีโอน่าทำการสลับตัว(เรียกว่าจับตัวไปเพื่อสลับตัวจะถูกกว่า) กับสเตซี่เพราะคิดว่าเป็นมากาเร็ต เธอเร่งพิธีสวมมงกุฎเข้ามาภายในคืนนั้นเพื่อที่จะให้เป้าหมายของเธอเป็นจริงเร็วที่สุดแล้ว
จะได้หนีไปแบบสวยๆ ในด้านมากาเร็ตก็ได้ปรับความเข้าใจกับเควินเป็นที่เรียบร้อยและนัดดินเนอร์กัน
แต่พอกลับไปห้องปรากฏกว่าคนที่อยู่ในห้องไม่ใช่สเตซี่เอาล่ะซิ งานสวมมงกุฎก็ถูกเลื่อนเข้ามา มากาเร็ตจะช่วยสเตซี่ และบัลลังก์ของเธอไว้ได้รึเปล่านะ ไปดูได้แล้ววันนี้ทาง Netflix ค่ะ

บทสรุปของการสลับตัว : The Princess Switch (Switched Again)

บางครั้งมันก็คงดีที่เราจะมีใครสักคนทำหน้าที่ที่เราไม่ชอบแทนตัวเรานะ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องมีขีด

จำกัดของมัน The Princess Switch  (Switched Again) ในภาคนี้ได้แสดงให้เห็นว่าการสลับตัวกันนั้นมันก็มีข้อดีในภาคแรกแต่พอในภาคที่สองกลับแสดงในด้านลบให้เห็นบ้าง คือเรื่องที่เกิดขึ้นกับสเตซี่มันก็เลวร้ายมากเธอถูกลักพาตัวไปโดยที่ไม่มีใครรู้ แต่อีกปัญหาคือราชินีคนใหม่ที่เป็นตัวปลอมคงไม่สนุกแน่ถ้าฟีโอน่าได้เป็นราชินี ความเสียหายจากการสลับตัวในครั้งนี้ไม่มีใครคาดคิด และนี่คือสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อกับเรา บางครั้งเราก็แค่ต้องกล้าที่จะเป็นตัวเอง และกล้าที่จะตัดสินใจเชื่อมั่นในตัวเอง ต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่ แต่ถึงแม้ว่าการตัดสินใจครั้งนั้นมันผิดพลาดมันก็คือบทเรียนของเรา รู้แล้วว่าผิดคราวหน้ามันจะไม่ผิดซ้ำสองผู้เขียนเชื่อแบบนั้นค่ะ เห็นไหมว่าหนังของวันคริสมาสต์ที่ดูจะเป็นหนังครอบครัวสบายๆ ก็ยังให้ข้อคิดดีๆ ได้เลย

ถ้าพูดถึงซีรีส์ละครไทยในปัจจุบัน บอกเลยว่ามีให้เลือกชมเลือกดูกันเยอะเป็นอย่างมาก ซึ่งแต่ละเรื่องต่างก็สนุกสนานไม่แพ้กัน มีทั้งเศร้า เหงา รัก ดราม่า ตลก ครบทุกรสชาติ ที่คุณสามารถเลือก สรรและดูได้ตามความต้องการ และหากใครอยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรเป็นกระแสและน่าจับตามองมากที่สุดตอนนี้เรามาอัปเดตกัน

4 ซีรีส์ละครไทยใหม่ที่ใครไม่ดูถือว่าพลาดมาก

ในปัจจุบันซีรีส์ละครไทยมีช่องทางให้คุณได้เลือกชมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังมีช่องทางให้เข้าถึงง่าย ซึ่งสามารถสรรหาเรื่องที่ชอบและถูกใจดูได้ตามใจ แถมหากคุณไม่ต้องการพลาดเรื่องไหน คุณสามารถดูย้อนหลังได้ทันที โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดเรื่องโปรดและต้องนั่งตั้งตาอดหลับอดนอนเพื่อคอยดูอีกต่อไป แถมยังสามารถเก็บดูเรื่องโปรดตามได้ครบทุกเรื่องอีกด้วย แต่ถ้าหากใครอยากจะอัปเดตซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ละก็ เรามีมาอัปเดตให้ทุกคนได้ดูกันจะมีเรื่องไหนน่าสนใจบ้าง

1.Dare to Love ให้รักพิพากษา

Dare to Love ให้รักพิพากษา ออกอากาศทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. เริ่มตอนแรกวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ทางช่อง 3 กด 33 ซึ่งเป็นเรื่องราวของทนาย “ทิชา” ที่มีความสวยและเก่งมาก เธอเป็นคนที่เพียบพร้อมไปหมดทุกอย่าง แต่โสด ถึงแม้จะมีผู้ชายมาขายขนมจีบมากมาย แต่เธอไม่เคยสนใจเรื่องความรักอีกเลยตั้งแต่เลิกกับแฟนเก่า แต่โชคชะตาทำให้เธอได้เจอกับพรหมลิขิต และทำให้ลมหวนพัดให้เธอมาเจอกับคนที่เคยรักอีกครั้งอย่าง “คิว” อดีตเด็กเกเรที่เธอช่วยไว้ ซึ่งเขาได้พลิกชีวิตจากแบดบอย มาเป็นทนายฝึกหัด โดยมีทิชาเป็นไอดอล และนอกจากพรหมลิขิตจะขีดให้เธอได้เจอกับคนที่ชอบแล้ว ยังทำให้เธอได้เจอกับคู่ปรับเก่าอย่าง “ทนายคามีเลีย” เรื่องวุ่น ๆ จะเป็นอย่างไร เธอจะไขคดีต่าง ๆ ได้วุ่นวายแค่ไหน มารอลุ้นกัน

2.หลงกลิ่นจันทน์

หลงกลิ่นจันทน์ เป็นเรื่องราวแนวสืบสวนสอบสวน ที่จะทำให้คุณลุ้นกันว่าในเรื่องใครกันแน่ที่เป็นฆาตกรตัวจริง โดยเนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวของ “ร.ต.อ.ว่านรัก” สารวัตรสืบสวนสอบสวนสาวสวยคนใหม่ที่พึ่งมาประจำการที่สถานีภูธรดอนหินกาบ และเธอจะต้องพบเจอกับการไขคดีแรกคือการตายของนายผาด ที่ถูกฆาตกรรมในสภาพเปลือยเปล่า อวัยวะเพศถูกตัดขาดและมีดอกไม้จันทน์อยู่ในปากของศพ ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่คล้าย ๆ กับคดีของสารวัตรนิติ สารวัตรที่รับผิดชอบคดีของ “จันทน์” สาวสวยที่ถูกขมขืนและฆ่าตายที่ป่าหลังวัด ซึ่งคดีนี้การสืบสวนไม่ได้ง่าย เพราะทุกคนต่างก็มีแนวโน้มที่จะเป็นฆาตกร เรื่องราวจะเข้มข้นขนาดไหน และเธอจะหาฆาตกรตัวจริงได้หรือไม่ เรามาลุ้นไปพร้อม ๆ กัน ละคร “หลงกลิ่นจันทน์” ออกอากาศทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35 เริ่มออกอากาศตอนแรก 26 พฤษภาคม 2564

3.แพศยา

เรื่องราวของผู้หญิง 2 คนที่แก่งแย่งชิงดีชิ่งเด่นกันในเรื่องงานในวงการบันเทิงและความรัก โดยคนหนึ่งคือ “พลอย” ซุปตาร์วัยสามสิบปีเศษ กับ “ดาว” คลื่นลูกใหม่มาแรงที่สวยกว่า สดกว่า และมีความมั่นคงทางอารมณ์และความรู้สึกได้มากกว่า ถึงแม้ดาวจะเริ่มต้นจากสาวใช้ที่พลอยนำมาจากต่างจังหวัด แต่ด้วยความทะเยอทะยานของดาวทำให้เธอได้เข้าทำงานบันเทิงในที่สุด ซึ่งเรื่องราวของแพศยาลักษณะคล้าย ๆ กับชาวนากับงูเห่า ที่เมื่อเลี้ยงดูจนดีแล้วสุดท้ายก็กัดเจ้าของอยู่ดี เรื่องราวจะเป็นอย่างไร จะเข้มข้นแค่ไหน เรามาติดตามกัน ซีรีส์ออกอากาศวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 21.30 น. ช่อง PPTV เริ่มตอนแรกวันที่ 2 มิถุนายน 2564

4.สองเสน่หา

สองเสน่หาเป็นละครแนวโรแมนติก – ดราม่า ที่เป็นเรื่องราวของแฝดสาวสองพี่น้องอย่าง “เดือนหยาดและพิลาสลักษณ์” ที่ต่างคนต่างก็มีนิสัยที่แตกต่างกันอย่างลิบลับ โดยเดือนหยาดได้ให้พิลาสลักษณ์สวมรอยเป็นตนเข้าไปทำงานในวงการบันเทิง เพื่อแก้ข่าวลือเรื่องที่เดือนหยาดกำลังตั้งท้องและแท้งลูกนอนอยู่โรงพยาบาล และทำให้ชีวิตของสองพี่น้องได้เข้าไปพัวพันกับ “วาริธ” คนที่เดือนหยาดก็อยากได้มาครอบครอง แต่ดูท่าคนที่ครองใจวาริธได้จะเป็นแฝดน้องอย่างพิลาสลักษณ์ แต่เพราะความอยากได้อยากมีของเดือนหยาดทำให้เธอทำทุกอย่างเพื่อจะถีบตัวเองให้สูงขึ้นจนทำให้เกิดปัญหาจนยากที่จะแก้ แต่ปัญหาที่เดือนหยาดได้กระทำไว้ ไม่ได้ส่งผลแค่เธอคนเดียว เพราะพิลาสลักษณ์ก็เดือดร้อนจากการกระทำของเธอด้วย เรื่องราวจะจบเช่นไร ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายเช่นไร บอกเลยว่าตอนจบที่ดี มีแค่เรื่องอื่น แต่ไม่ใช่ “สองเสน่หา” แน่นอน คุณสามารถรับชมได้ทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 กด 33 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันที 5 พฤษภาคม 2564

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ ซีรีส์ละครไทยยอดนิยมที่เรานำมาแนะนำ บอกเลยว่าแต่ละเรื่องต่างก็มีกระแสแรงเป็นอย่างมาก ซึ่งหากใครที่ชอบละครไทยที่มีเนื้อหาร้อนแรง บอกเลยว่าแต่ละเรื่องที่เราคัดสรรมานั้นถูกใจใครหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน แต่นอกจากเรื่องที่เรานำมาแนะนำ ยังมีซีรีส์ไทยยอดนิยมอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ บอกเลยว่าไม่รู้จะเลือกดูเรื่องไหนก่อนดี แต่ละเรื่องต่างก็สนุกสนานไม่แพ้กัน

หากพูดถึงซีรีส์กระแสดีที่สุดในตอนนี้ก็คงนี้ไม่พ้น เรื่อง “กระเช้าสีดา” ถึงแม้ช่วงนี้สถานการณ์โควิด – 19 ทางซีรีส์จะงดออกอากาศ เพราะไม่สามารถที่จะถ่ายทำได้ แต่ซีรีส์ก็ยังเป็นกระแสไม่ได้ลดลงเลย หลายคนที่ดูแล้วต่างก็ตั้งตารอว่าเมื่อไหร่จะสามารถถ่ายทำต่อได้ แต่หากใครที่อาจจะยังไม่เคยดู เรามีเรื่องย่อมาเรียกน้ำย่อยกัน

เรื่องย่อซีรีส์กระแสดี “กระเช้าสีดา”

“กระเช้าสีดา” เนื้อเรื่องจะเป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่มีเพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะฐานะ ชาติตระกูล หน้าตาอย่าง “น้ำพิ้งค์” ที่ได้แต่งงานกับ “ลือ” อดีตนายแบบที่ผันตัวเองมาเปิดบริษัทท่องเที่ยว และใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าลือนั้นเป็นคนเจ้าชู้มากแค่ไหน ซึ่งเพื่อน ๆ ของเธอพยายามเตือนหลายครั้ง แต่น้ำพิงค์มั่นใจว่าชายหนุ่มรักตัวเธอมาก และแล้วความเชื่อใจที่เธอมีก็ได้พังลง เมื่อเธอจับได้ว่าลือแอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ “รำนำ” เด็กในบ้านที่ลืออุปการะไว้ ซึ่งสำหรับตัวรำนำเอง เธอเป็นคนมีความทะเยอทะยานสูง เธอสามารถทำทุกอย่างเพื่อให้เธอสูงขึ้น ซึ่งหากเปรียบกับต้นไม้ “รำนำ” ก็เหมือนกับ “กระเช้าสีดา” ที่เป็นไม้เลื้อยสวยงามชอบอาศัยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ และสามารถเติบโตได้บน “ซาก” ต้นไม้ที่เคยให้พักพิง พร้อมยังกัดกินพลังชีวิตของผู้อื่น

การถูกคนที่รักหักหลังทำให้น้ำพิงค์เปลี่ยนจากความรักมาเป็นความแค้น และเธอจึงต้องจะทวงทุกอย่างที่เป็นของเธอคืน เรื่องราวความรักของทั้งสามทางออกจะเป็นเช่นไร ใครจะพบบทสรุปของชีวิตที่ไร้ค่าเหมือนกับต้นกระเช้าสีดาที่ไม่มีราคา คุณสามารถติดตามรับชมได้ในซีรีส์ละครไทย “กระเช้าสีดา” รับรองเลยว่าไม่ทำให้คุณผิดหวัง โดยเรื่องนี้นางเองตลอดกาลอย่าง “นุ่น วรนุช รับบทเป็นเมียหลวงสุดสตรอง ที่พร้อมเชือดเฉือนอย่างถึงพริกถึงขิงกับนางเอกรุ่นน้องอย่าง กรีน – อัษฎาพร” ที่สวมบทบาทเป็นนางร้ายเรื่องแรกที่เรียกได้ว่าร้ายแบบสุดแสบ แถมคุณยังจะได้เห็นการประชันบทบาทระหว่าง ปีเตอร์ – คอร์ปไดเรนดัล และเจม จิรายุ สามีแห่งชาติ ที่สาว ๆ ต่างหลงใหลกันทั่วบ้านทั่วเมือง ยิ่งในบทของ “อำพน” ยิ่งถูกใจสาวเล็กสาวใหญ่กันเลยก็ว่าได้ ซึ่งหากใครที่ชอบแนวดราม่า บอกเลยว่าไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด

สำหรับซีรีส์ละครไทยอย่าง “กระเช้าสีดา” นั้น เป็นซีรีส์กระแสดีที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้ ถึงแม้จะมีเนื้อหาจะค่อนข้างรุนแรง และส่อไปถึงการทำผิดศีลธรรมอันดีต่อสังคม แต่ซีรีส์ไทยอย่าง กระเช้าสีดา ก็ยังเป็นละครมีผลตอบรับที่เกินความคาดหมายเป็นอย่างมาก ถึงแม้ในสถานการณ์ที่โควิด – 19 กำลังระบาด ทำให้ไม่สามารถถ่ายทำละครต่อได้ แต่ก็ยังมีคนพูดถึงเป็นจำนวนมาก ถือเป็นอีกซีรีส์ไทยที่เป็นกระแสอีกเรื่องหนึ่งที่เราอยากแนะนำ

รายละเอียดละครกระเช้าสีดา

บทประพันธ์โดย : กฤษณา อโศกสิน

บทโทรทัศน์โดย : ศรุฑ สามงามแจ่ม

กำกับการแสดงโดย : โอ๋-คฑาเทพ ไทยวานิช

ผลิตโดย : CHANGE2561

ควบคุมการผลิตโดย : พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา และ เอส-วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย

รายชื่อนักแสดงกระเช้าสีดา

น้ำพิ้งค์ แสดงโดย วรนุช ภิรมย์ภักดี

รำนำ แสดงโดย อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล

ลือ แสดงโดย ปีเตอร์ คอร์ปไดเรนดัล

อำพน แสดงโดย จิรายุ ตันตระกูล

จรินทร์ แสดงโดย นพพล โกมารชุน

พาที แสดงโดย วิทยา วสุไกรไพศาล

รตี แสดงโดย คลาวเดีย จักรพันธุ์

นุ่ม แสดงโดย กาญจนาพร ปลอดภัย

ศศี แสดงโดย ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล

เวไนย แสดงโดย ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม

บอกเลยว่านซีรีส์กระแสดี เรื่องนี้ได้จัดนักแสดงแต่ละคนมากความสามารถกันทั้งนั้น รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะแค่เห็นรายชื่อนักแสดงแต่ละคนก็สามารถการันตีได้แล้วว่า คุณจะต้องไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน “กระเช้าสีดา” ออกอากาศทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. เริ่มตอนแรกเมื่อวันพุธที่ 21 เมษายน 2564 ซึ่งในปัจจุบันออกอากาศมาแล้ว Ep. 6 แต่ซีรีย์ยอดนิยมนี้จะต้องหยุดถ่ายทำกันก่อน เพราะสถานการณ์โควิด – 19 ทำไม่สามารถถ่ายทำได้ แต่อีกไม่นานเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นคุณจะได้ชมอย่างจุใจอย่างแน่นอน รับรองว่าซีรีส์เป็นกระแส ที่ใครดูแล้วจะต้องติดอกติดใจ บอกเลยว่านับวันรอเลยก็ว่าได้ 

ซีรีย์เกาหลีเรื่อง The Tale of a Gumiho เทพบุตรจิ้งจอกเก้าหาง เป็นซีรีย์ที่จะพาเราไป สนุกสุดฟินเป็นซีรีย์เกาหลี แนวแฟนตาซี โรแมนติก คอมเมดี้ ผลงานการเขียนบทโดย ฮันอูริ และกำกับการแสดงโดย คังซินฮโย ที่เล่าถึงเรื่องราวของจิ้งจอกเก้าหางอายุกว่าพันปี ที่ต้องมาใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ธรรมดาสังคมเมือง กับโปรดิวเซอร์สาวสุดแกร่งที่ทำรายการสารคดีเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ และพยายามไล่ล่าตามตัวเขาอยู่ ซีรีย์ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นหนุ่มหล่ออย่าง อีดงอุค ที่มารับบทเป็น อียอน จิ้งจอกเก้าหางเทพเจ้าโบราณในตำนานของเกาหลี เขามีชีวิตอยู่เพื่อทำหน้าที่ลงโทษเหล่าสัตว์ประหลาดที่คอยมาก่อกวนและทำร้ายมนุษย์ คนต่อมาคือสาวสวย โจโบอา ที่รับบทเป็น นัมจีอา โปรดิวเซอร์สาวเธอจัดทำรายการเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ งานของเธอคือต้องคอยพยายามตามหาและเปิดโปงเรื่องลี้ลับ เพื่อให้รายการที่มีเรตติ้งสูง โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าการตามล่าหาความจริงเหล่านี้ มันจะทำให้เธอต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างที่เธอไม่คาดฝัน และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้นั้นก็คือหนุ่มหล่อน้าใส คิมบอม ที่รับบทเป็น อีรัง จิ้งจอกเก้าหางเหมือนกับอียอน แต่เขานั้นมีนิสัยใจร้อน และชอบหาเรื่องพี่ชายอย่าง อียอน เสมอ เพราะทั้งสองมีภูมิหลังในเรื่องบาดหมางกันมาเมื่อหลายร้อยปีก่อน โดยซีรีย์เรื่องนี้ ออกอากาศทางช่อง TVN ประเทศเกาหลีใต้ ส่วนคนไทยอย่างพวกเราก็สามารถรับชมได้ผ่านทาง WeTV, Viu และ iQIYI

เนื้อเรื่องย่อซีรีย์ The Tale of a Gumiho เทพบุตรจิ้งจอกเก้าหาง

ซีรีย์เกาหลี The Tale of a Gumiho เทพบุตรจิ้งจอกเก้าหาง เปิดเรื่องมาซีรีย์ก็พาเราย้อนไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน ณ ป่าช่องเขาจิ้งจอก ซึ่งที่นั่นเป็นที่ที่จิ้งจอกเก้าหางอาศัยอยู่ โดยเขาก็ได้เจอกับมนุษย์สาวและตกหลุมรักเธอ หลังจากครองรักกันอยู่ได้ไม่นาน มนุษย์สาวคนรักของเขาก็ต้องมาตายจากไป เหตุนี่เองที่ทำให้เขาใจสลาย และได้ทำการฝ่าฝืนกฎ เป็นเหตุทำให้เขาหลุดจากตำแหน่งเทพเจ้าแห่งขุนเขา เวลาผ่านมาหลายร้อยปี ความรักที่เขามีไม่เคยลดน้อยถอยลง เขาเลยพยายามตามหามนุษย์สาวที่เขารักอยู่ เพราะก่อนตายเธอได้สัญญากับเขาว่ามาจะกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง จนคืนวันหนึ่ง เขาได้มาพบเขากับเด็กสาวโชคร้ายที่กำลังหนีเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของสัตว์ประหลาด และความโชคร้ายของเธอก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นความโชคดีเพราะเด็กคนนั้นเธอดันมีหน้าตาคล้ายกับมนุษย์สาวที่เขาเคยรัก จิ้งจอกเก้าหางจึงได้ช่วยเธอเอาไว้ เวลาผ่านมา 21 ปี เด็กสาวในวันนั้นโตมาเป็น สาวสวยชื่อว่า นัมจีอา เธอเป็นโปรดิวเซอร์รายการเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ ที่พยายามตามหาพ่อแม่ที่หายไป พร้อมกับพยายามที่จะเปิดโปงเรื่องลี้ลับต่างๆ โดยทั้งคู่พบกันอีกครั้ง และมีเหตุให้ต้องมาทำภารกิจร่วมกัน เรื่องราวของจิ้งจอกเก้าหางและพีดีสาว จะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องติดตามกันกับ ซีรีย์ เรื่อง The Tale of a Gumiho เทพบุตรจิ้งจอกเก้าหาง

ความประทับใจหลังดูซีรีย์เรื่อง The Tale of a Gumiho เทพบุตรจิ้งจอกเก้าหาง เป็นอย่างไรมาดูกัน

ต้องบอกเลยว่าทาง ซีรีย์เกาหลี มักจะทำซีรีย์แนว แฟนตาซีออกมาได้ดีเสมอ และเรื่องนี้ก็เช่นกันค่ะ เรื่องราวได้ดัดแปลงมาจากความเชื่อของเกาหลีแท้ๆ ในส่วนของเนื้อเรื่องก็มีความสนุก ตัวละครทุกตัวมีการปูปมมาตั้งแต่เริ่มเรื่อง และเมื่อเรื่องค่อยๆดำเนินไป ปมเหล่านั้นก็ค่อยๆออกมา ช่วยเพิ่มความน่าติดตามเข้าไปอีก และที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ก็คือ ในส่วนของ ภาพ สี และ CG ที่ซีรีย์ทำออกมาได้ อลังการ สมจริง ประทับใจมากๆ อยากแนะนำสำหรับใครที่เป็น คอซีรีย์ เกาหลีอยู่แล้ว ต้องดูเรื่องนี้เลยนะคะ รับประกันความสนุกเลยค่ะ

คะแนนของเรื่องนี้ 8.5/10

ชมตัวอย่างซีรีย์ได้ทาง https://www.youtube.com/watch?v=JcGw3pYy2pk 

ซีรีย์จีนเรื่อง A Love So Beautiful รักนี้ยังงดงาม ซีรีย์น่ารักวัยมัธยม ที่จะพาเราย้อนนึกถึงรักครั้งแรก เป็นซีรีย์แนวโรงเรียน โรแมนติก คอมเมดี้ ที่เล่าถึงเรื่องราวความรักและความพยายามทำเพื่อความรักของสาวน้อยคนหนึ่ง ที่เริ่มเรื่องราวความรักของตัวเองมาตั้งแต่ยังเด็ก โดยซีรีย์ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นหนุ่มหล่อน่าใสอย่าง หูอีเทียน ที่รับบทเป็น เจียงเฉิน หนุ่มน้อยแสนเย็นชา ที่ปิดหัวใจตัวเองเอาไว้ไม่เปิดให้ใครเข้ามาง่ายๆ เพราะเขานั้นต้องอาศัยอยู่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่เด็กๆ เนื่องจากพ่อเสีย แม่ก็แต่งงานใหม่ เขาเป็นคนหล่อ เรียนเก่ง และเป็นที่ต้องตาต้องใจของสาวๆหลายคน รวมไปถึง เฉินเสี่ยวซี เด็กสาวข้างบ้านที่แอบชอบเขาและพยายามตามจีบเขาทุกวันด้วย คนต่อมาคือสาวน้อยน่ารักอย่าง เฉินเย่ว์ ที่มารับบทเป็น เฉินเสี่ยวซี สาวน้อยตัวเล็กน่ารัก เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดี ชีวิตวัยเด็กของเธอมีเพียง 2 อย่างเท่านั้นที่เธอหลงรัก นั้นก็คือ งานศิลปะ และ หนุ่มเจียงเฉิน โดยงานศิลปะเป็นความชอบที่เธอสามารถลงมือทำได้เลย แต่ความชอบอย่างที่สองของเธอนี่สิที่ลำบาก เพราะเธอดันไปชอบ เจียงเฉิน หนุ่มเย็นชา หน้าตาไร้ความรู้สึกซะได้ ซีรีย์จีน เรื่องนี้ ออกอากาศทางประเทศจีน ส่วนคนไทยอย่างพวกเราก็สามารถรับชมได้ผ่านทาง Netflix

เนื้อเรื่องย่อซีรี่ย์ A Love So Beautiful รักนี้ยังงดงาม

ซีรีย์จีน เรื่องนี้เปิดเรื่องราวมาที่ “เฉินเสี่ยวซี” เด็กสาวน่ารัก จิตใจดี ที่ตั้งแต่เด็กๆ เธอได้แอบรักหนุ่มน้อยคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ข้างบ้านเธอ เขามีชื่อว่า “เจียงเฉิน” แต่ถึงอย่างนั้น ความรักของเธอก็ไม่ได้มาง่ายๆเพราะ เจียงเฉิน เขาดันเป็นคนที่เย็นชาและปิดใจจากปมปัญหาครอบครัว แต่ถึงอย่างนั้นสาวน้อยเฉินเสี่ยวซีของเรา ก็ไม่ได้ล้มเลิกความพยายามแต่อย่างใด เธอยังคงพยายามตามจีบ เจียงเฉิน มาโดยตลอด จนเธอกับเขาได้อยู่โรงเรียนเดียวกันในช่วงมัธยมปลาย ซึ่งนั้นเองที่เธอตัดสินใจสารภาพรักกับเขา แต่ก็ต้องโดยปฏิเสธมาแบบตรงๆ ซึ่งเมื่อเธอโดนปฏิเสธเธอก็ไม่ได้จะร้องไห้ ฟูมฟาย และถอดใจ แต่เธอกลับบอก เจียงเฉินว่า เดี๋ยวเธอขอไปหาทางจีบเข้าใหม่แทน ตลอดช่วงเวลามัธยมปลายเธอใช้ทุกวันในการตามจีบ เจียงเฉิน ทั้งมารอไปโรงเรียนพร้อมกัน ซื้ออาหารเช้ามาใหม่ ดูแลตอนป่วย จนเจียงเฉินเริ่มใจอ่อนและตกหลุมรักเธอกลับ ทั้งคู่คบกันมาตั้งแต่มัธยมจนถึงช่วงมหาลัย ที่ที่ความรักของทั้งคู่เริ่มมีปัญหาเนื่องจาก เจียงเฉิน เรียนหมอเขาจึงไม่ค่อยมีเวลามาอยู่ด้วยกัน เฉินเสี่ยวซี ปัญหาเริ่มก่อตัวและบานปลาย จนทั้งคู่ทะเลาะและแยกจากกันไปเป็นเวลาหลายปี และดันมาบังเอิญเจอกันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งตอนที่ทั้งสองอยู่ในวันทำงานแล้ว แล้วเรื่องราวความรักของทั้งคู่จะสามารถฟื้นคืนกลับมาน่ารักสดใสเหมือนวัยมัธยมได้ไหม ต้องติดตามกันในซีรีย์ เรื่อง A Love So Beautiful รักนี้ยังงดงาม

ความประทับใจหลังดูซีรีย์เรื่อง A Love So Beautiful รักนี้ยังงดงาม เป็นอย่างไรมาดูกัน

เมื่อเราดู ซีรีย์จีน เรื่องนี้เราจะพบเลยว่าเนื้อหามีกลิ่นอายของความเป็น สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก ของไทย ที่นำเสนอเรื่องราวความรักที่เด็กสาวคนหนึ่งมีต่อคนที่เธอชอบ นอกจากนี้ซีรีย์ยังตีแพร่ในเรื่องของปัญหาครอบครัวต่างๆ ที่เราจะพบเห็นบ่อยๆในสังคมปัจจุบัน ซีรีย์ไม่ได้มีปมดราม่าหนักๆ เพราะเนื้อเรื่องโดยรวมจะอยู่ที่สาว เฉินเสี่ยวซี กับความพยายามในความรักของเธอ ซึ่งมันน่ารักมากๆ เลย พระเอกของเราก็ในตอนแรกดูเป็นคนเย็นชามาก แต่เมื่อเจอความน่ารักสดใสและจริงใจที่ เฉินเสี่ยวซี มีให้ เขาก็ยอมพ่ายแพ้ในเธอ จนเกิดเป็นความฟิน ให้เราได้ดูกันใน A Love So Beautiful รักนี้ยังงดงาม ใครที่เป็นคอซีรีย์ไม่ควรพลาดเลยนะคะขอบอก 

คะแนนของเรื่องนี้ 8.5/10

ชมตัวอย่างซีรีย์ได้ทาง https://www.youtube.com/watch?v=V_1aauD9GUI