สิ้นสุดการรอคอยกับภาคต่อของ The Princess Switch (Switched Again) ขอเท้าความถึงภาคแรกก่อนสักหน่อยค่ะเพราะห่างหายมานานตั้งแต่ปี 2018 สเตซี่สาวนักอบขนมธรรมดาๆ คนนึงกำลังจะเข้าแข่งขันอบขนมครั้งสำคัญของชีวิต และบังเอิญได้เจอกับมากาเร็ตเจ้าหญิงแห่งมอนเตนาโร บังเอิ๊ญบังเอิญที่ทั้งสองหน้าตาเหมือนกันเป๊ะ มากาเร็ตต้องการเรียนรู้ชีวิตของสามัญชนและประชาชนของเธอในอนาคต ทั้งสองคนจึงทำการสลับตัวกัน ความอลวนวุ่นวายก็ได้เกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเกิดการสลับคู่รักที่พลิกล็อคสุดๆ เจ้าหญิงสูงศักดิ์รักกับคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวเพื่อนสนิทของสเตซี่ ส่วนหญิงสาวธรรมดาก็ตกหลุมรักเจ้าชายเข้าเต็มเปา เวลาแค่ไม่กี่วันความรักก็เกิดขึ้นได้นะเออ เพราะว่าต่างคนต่างเจอในสิ่งที่ตัวเองขาดหายไปนั่นเองแหละ เราก็สบายใจไปแล้วนะกับตอนจบที่ทุกคน Happy แต่แม้ในภาคแรกดูเหมือนจะจบแบบ Happy ending จะเป็นยังไงเมื่อความรักของคู่หนึ่งมันไปต่อไม่ได้ เปิดมาขนาดนี้แล้วคงต้องแอบสปอยล์สักหน่อยแล้วค่ะ

สลับแล้วสลับอีกเพื่อความรัก : The Princess Switch (Switched Again)
นี่จะเป็นเรื่องราว The Princess Switch (Switched Again) หลังจากสเตซี่แต่งงานกับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดทั้งคู่ก็เริ่มมีเวลาให้กันน้อยลงเพราะสเตซี่ต้องการจะเป็นเจ้าหญิงที่สมบูรณ์แบบเธอรักการทำงานการกุศลโดยเฉพาะบ้านเด็กกำพร้า ในด้านมากาเร็ตเธอมีหน้าที่ที่จะต้องขึ้นเป็นราชินีของมอนเตนาโรซึ่งนั่นทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเควินต้องจบลงแหละเหลือเพียงสถานะเพื่อน สเตซี่ไม่พอใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่ ก่อนงานพิธีขึ้นครองราชย์ของมากาเร็ต เธอจึงเสนอให้ทั้งสองคนสลับตัวอีกครั้งเพื่อให้มากาเร็ตได้ปรับความเข้าใจกับเควิน และมันก็ไปได้สวยเลยล่ะ ด้วยการสลับตัวครั้งนี้สเตซี่เธอไม่ได้บอกสามีของเธอเอ็ดเวิร์ดที่ตอนนี้กำลังระหองระแหงกันอยู่ เอ็ดเวิร์ดต้องการคำปรึกษาจากมากาเร็ตเพราะเขาเริ่มไม่แน่ใจว่าสเตซี่ยังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า ทั้งสองก็ได้ปรับความเข้าใจกันแบบบังเอิญ(เรียกว่าสเตซี่ได้รู้ความในใจของสามีดีกว่า เธอถึงได้ตระหนักว่าเธอลืมสิ่งสำคัญที่สุดไป) แต่คราวนี้พวกเธอไม่ได้สลับกันแค่สองคน ใช่แล้ว มีอีกคนที่เข้ามาสลับตัวนั่นคือฟีโอน่าญาติของมากาเร็ตที่ต้องการขึ้นเป็นราชินีเพื่อขโมยของมีค่าทุกอย่างไป ฟีโอน่าเป็นคนฟุ่มเฟือยมาก และเธอใช้มรดกจนหมดแล้วเธอจึงต้องทำทุกทางเพื่อหาเงิน ทุกทางแบบแปลกๆ อะนะ เรื่องวุ่นๆ
ก็ได้เกิดขึ้นหนักกว่าเดิม ฟีโอน่าทำการสลับตัว(เรียกว่าจับตัวไปเพื่อสลับตัวจะถูกกว่า) กับสเตซี่เพราะคิดว่าเป็นมากาเร็ต เธอเร่งพิธีสวมมงกุฎเข้ามาภายในคืนนั้นเพื่อที่จะให้เป้าหมายของเธอเป็นจริงเร็วที่สุดแล้ว
จะได้หนีไปแบบสวยๆ ในด้านมากาเร็ตก็ได้ปรับความเข้าใจกับเควินเป็นที่เรียบร้อยและนัดดินเนอร์กัน
แต่พอกลับไปห้องปรากฏกว่าคนที่อยู่ในห้องไม่ใช่สเตซี่เอาล่ะซิ งานสวมมงกุฎก็ถูกเลื่อนเข้ามา มากาเร็ตจะช่วยสเตซี่ และบัลลังก์ของเธอไว้ได้รึเปล่านะ ไปดูได้แล้ววันนี้ทาง Netflix ค่ะ
บทสรุปของการสลับตัว : The Princess Switch (Switched Again)

บางครั้งมันก็คงดีที่เราจะมีใครสักคนทำหน้าที่ที่เราไม่ชอบแทนตัวเรานะ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องมีขีด
จำกัดของมัน The Princess Switch (Switched Again) ในภาคนี้ได้แสดงให้เห็นว่าการสลับตัวกันนั้นมันก็มีข้อดีในภาคแรกแต่พอในภาคที่สองกลับแสดงในด้านลบให้เห็นบ้าง คือเรื่องที่เกิดขึ้นกับสเตซี่มันก็เลวร้ายมากเธอถูกลักพาตัวไปโดยที่ไม่มีใครรู้ แต่อีกปัญหาคือราชินีคนใหม่ที่เป็นตัวปลอมคงไม่สนุกแน่ถ้าฟีโอน่าได้เป็นราชินี ความเสียหายจากการสลับตัวในครั้งนี้ไม่มีใครคาดคิด และนี่คือสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อกับเรา บางครั้งเราก็แค่ต้องกล้าที่จะเป็นตัวเอง และกล้าที่จะตัดสินใจเชื่อมั่นในตัวเอง ต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่ แต่ถึงแม้ว่าการตัดสินใจครั้งนั้นมันผิดพลาดมันก็คือบทเรียนของเรา รู้แล้วว่าผิดคราวหน้ามันจะไม่ผิดซ้ำสองผู้เขียนเชื่อแบบนั้นค่ะ เห็นไหมว่าหนังของวันคริสมาสต์ที่ดูจะเป็นหนังครอบครัวสบายๆ ก็ยังให้ข้อคิดดีๆ ได้เลย